Slow MICE with Slow Route เพื่อการเดินทางที่มีความหมายและน่าจดจำ

Author : MICE Intelligence Team
Views 2868 | 04 Sep 2023
นักเดินทางไมซ์ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และคาดหวังว่าผู้ประกอบการไมซ์จะสามารถนำเสนอประสบการณ์ที่ทำให้พวกเขาได้เป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูโลกใบนี้ผ่านการเดินทางแบบ "รักษ์โลก" ปัจจุบันพฤติกรรมของนักเดินทางเปลี่ยนไป โดยหันมาใส่ใจและมีความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน รวมถึงมีส่วนร่วมมากขึ้นในการรักษาสิ่งแวดล้อมในสถานที่ที่ได้เดินทางไปเยือน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ขององค์การสหประชาชาติ ในเป้าหมายที่ 8 การส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง เป้าหมายที่ 11 การทำให้เมืองและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ และครอบคลุมถึงเป้าหมายที่ 13 การปฏิบัติการอย่างเร่งด่วนเพื่อต่อสู้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมไปถึงเป้าหมายที่ 15 การปกป้อง ฟื้นฟู และสนับสนุนการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืนด้วย

MICE Outlook ฉบับเดือน กันยายน นี้ จะพาทุกท่านไปเรียนรู้วิธีการเดินทางและกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์หรือ “Slow Route” ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อเปิดโอกาสให้นักเดินทางได้มีช่วงเวลาสำหรับเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่น่าประทับใจตลอดการเดินทาง


Key takeaways

- "Slow Route" การเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสนับสนุนให้นักเดินทางเข้าถึงที่พักและร้านอาหารท้องถิ่น ซึ่งเป็นการกระจายรายได้ให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ขององค์การสหประชาชาติ
- นักเดินทาง Gen Z เติบโตมาพร้อมกับการตื่นตัวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก จึงมีความสนใจรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และปรารถนาที่จะทำสิ่งที่มีความหมายเพื่อตอบแทนชุมชน รวมทั้งมีความหลงใหลในการทำความเข้าใจวัฒนธรรมอื่น ๆ มากขึ้น
- ผู้ประกอบการไมซ์สามารถนำเสนอรูปแบบการเดินทางใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจจะไม่ได้สะดวกรวดเร็วเหมือนรูปแบบเดิม ๆ แต่หากผู้ประกอบการสามารถนำเสนอประสบการณ์ และกิจกรรมที่ดีได้ตลอดการเดินทางแล้ว
นักเดินทาง Gen Z ก็พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนไปยังรูปแบบใหม่ ๆ เช่นกัน
- ผู้ประกอบการไมซ์สามารถออกแบบกิจกรรมให้นักเดินทางไมซ์ได้เพลิดเพลินไปกับการพักผ่อนพร้อมกับมีส่วนร่วม “รักษ์โลก” เช่น การสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด การใช้บริการขนส่งสาธารณะ การกระตุ้นให้เดินทางด้วยรถไฟแทนรถยนต์ รวมถึงการใช้จักรยานหรือรถพลังงานไฟฟ้าสำหรับบริการนักเดินทางในบริเวณแหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น

สำรวจแนวโน้มการเดินทางอย่างยั่งยืน

ปัญหาการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศโลก (Climate Change) ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการตัดสินใจเลือกรูปแบบการเดินทาง โดยนักเดินทางได้ตระหนักถึงผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากการเดินทางในแต่ละครั้ง ซึ่งได้กลายมาเป็นโจทย์สำคัญที่ทุกภาคส่วนในห่วงโซ่ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ นักเดินทาง หรือผู้คนในพื้นที่จำเป็นต้องร่วมกันออกแบบการเดินทางให้เกิดความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น



ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการที่ให้ความสำคัญและมีความพยายามส่งเสริมด้านความยั่งยืนนั้นมีแนวโน้มดึงดูดความสนใจของนักเดินทางรุ่นใหม่ได้มากกว่า โดยเฉพาะนักเดินทาง Gen Z ที่เติบโตมาพร้อมกับแนวความคิดของการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศโลก ซึ่งมีความสนใจการเลือกรูปแบบการการเดินทางที่ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุด แม้ว่ารูปแบบ นั้น อาจจะไม่ได้สะดวกและรวดเร็วเหมือนเดิม แต่หากผู้ประกอบการสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีได้ตลอดการเดินทาง รวมถึงมีกิจกรรมที่สร้างความหมายเพื่อตอบแทนชุมชนได้แล้ว นักเดินทางกลุ่มนี้ ก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงเช่นกัน



Booking.com บริษัทผู้นำด้านการเดินทางดิจิทัลของโลกเชื่อว่า “การเดินทางจะช่วยสร้างประสบการณ์และสายสัมพันธ์ใหม่ ๆ แต่การเดินทางก็เป็นส่วนสำคัญที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อโลกและสังคมเช่นกัน” จึงกลายมาเป็นแนวทางปฏิบัติในการสนับสนุนผู้ประกอบการที่พัก เพื่อดึงดูดนักเดินทางรุ่นใหม่จากทั่วทุกมุมโลกที่แสดงจุดยืนชัดเจนในการสนับสนุนการเดินทางอย่างยั่งยืน โดย Booking.com จะมอบป้ายสัญลักษณ์ “Travel Sustainable Badge หรือ ที่พักสำหรับการเดินทางอย่างยั่งยืน” ให้กับผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสในการขยายฐานกลุ่มลูกค้าเพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืนในอนาคต

https://www.hospitalitynet.org/news/4113503.html

เมื่อ “ความยั่งยืน” เป็นเหตุผลและความตั้งใจของนักเดินทางซึ่งต่างมองหาโอกาสและประสบการณ์ที่จะได้ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างไม่เร่งรีบ “Slow Route” จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ให้นักเดินทางได้ใช้เวลาซึมซับและมีความสุขกับสิ่งรอบตัวและแน่นอนว่าผู้ประกอบการไมซ์สามารถออกแบบกิจกรรมให้นักเดินทางไมซ์ได้เพลิดเพลินไปกับการพักผ่อนพร้อมกับมีส่วนร่วม “รักษ์โลก” ด้วยการส่งเสริมพฤติกรรมการเดินทางสำหรับเข้าร่วมงานไมซ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด การใช้บริการขนส่งสาธารณะ การกระตุ้นให้เดินทางด้วยรถไฟแทนรถยนต์ในระยะทางไกลกว่าเพื่อลดการปล่อยไอเสียและมลพิษ รวมถึงการใช้จักรยานหรือรถพลังงานไฟฟ้าสำหรับบริการนักเดินทางในบริเวณแหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น

“Eco Flight” เส้นทางการเดินทางสู่อนาคตที่ยั่งยืน

https://www.youtube.com/watch?v=nspBTBI8Kec&t=10s
https://www.nerdwallet.com/article/travel/united-airlines-mileageplus-program-the-complete-guide

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการเดินทางโดยเครื่องบินนั้นส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับการเดินทางประเภทอื่น ๆ ทั้งมลภาวะทางเสียง (Noise Pollution) หรือผลกระทบที่เกิดจากไอเสียของเครื่องบิน (Aircraft Engine Emissions) ซึ่งปัญหาดังกล่าวได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติสวีเดน Heart Aerospace ร่วมมือกับ United Airlines มุ่งมั่นพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมและทำให้การโดยสารโดยเครื่องบินกลับมาเป็นที่น่าสนใจอีกครั้ง เพื่อกระตุ้นการเดินทางในภูมิภาคด้วยการพัฒนาเครื่องบินที่ใช้พลังงานไฟฟ้าและตั้งเป้าลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) สู่บรรยากาศโลก

https://www.youtube.com/watch?v=nspBTBI8Kec&t=10s

เครื่องบิน Heart Aerospace สามารถเดินทางได้ 124 ไมล์ ด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน หลังจากนั้นจะเปลี่ยนเป็นโหมดไฮบริดเพื่อให้บินได้ไกลสูงสุด 250 ไมล์ ตามรายงานของ CNBC ซึ่งในโหมดไฮบริดเครื่องบินจะปล่อยคาร์บอนน้อยลง 50% และสามารถชาร์จใหม่ได้ภายในเวลาเพียง 30 นาที โดยจะสามารถเริ่มเปิดให้บริการได้ในช่วงปี 2030 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถช่วยลดการปล่อยของเสีย และยับยั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงในอนาคตได้ควบคู่กับการดำเนินมาตรการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น การบินตรง การลดสัมภาระในการเดินทาง และการกำหนดเส้นทางการบินให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือชุมชนน้อยที่สุด

เลือกการเดินทางที่ไม่เร่งรีบ เพื่อสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวอย่างแท้จริง

Byway ผู้ให้บริการแพ็คเกจการเดินทางและที่พัก เปิดตัวโปรแกรมการเดินทางเพื่อธุรกิจโดยไม่ใช้เครื่องบิน เพื่อช่วยให้บริษัทและผู้คนที่ใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องสิ่งแวดล้อมสามารถเพลิดเพลินไปกับการเดินทางด้วยรถไฟ พร้อม ๆ กับการเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟู รักษาสิ่งแวดล้อม เนื่องจาก Byway มีการสำรวจและพบว่าการเดินทางเพื่อธุรกิจทางอากาศในยุโรปมีต้นทุนคาร์บอนคิดเป็นกว่า 30% จึงมีความพยายามในการเสนอวิธีการที่จะลดปริมาณคาร์บอนลงได้ โดยไม่กระทบกับการเดินทางและเอื้อให้นักเดินทางเพื่อธุรกิจยังสามารถเดินทางไปทำงานแบบตัวต่อตัวได้

https://www.bcorporation.net/en-us/find-a-b-corp/company/byway/
https://www.cityam.com/train-travel-in-europe-london-to-italy-in-a-day-with-byway-travel/

โปรแกรมการเดินทางเพื่อธุรกิจของ Byway ช่วยให้นักเดินทางสามารถทำงานและมีเวลาแวะพักระหว่างเดินทาง เช่น การเดินทางไปประชุมธุรกิจที่มิวนิค หลังจากเสร็จภารกิจก็สามารถแวะไปพักผ่อนที่ซาน เซบาสเตียนได้ หรือตลอดเส้นทาง การนั่งรถไฟเพื่อไปเข้าร่วมประชุมที่ลอนดอนก็สามารถ Conference Meeting อื่น ๆ ได้อย่างต่อเนื่องผ่าน Wifi ที่เปิดให้บริการ โปรแกรมนี้จะช่วยเพิ่มความสุขในการเดินทางจากบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติสองข้างทาง ช่วยสร้างสมดุลระหว่างชีวิต และการทำงาน รวมถึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศโดยรอบอีกด้วย

https://www.traveldailymedia.com/byway-launches-first-ever-flight-free-business-travel-planner/
https://www.londondaily.news/byway-launches-first-ever-flight-free-business-travel-planner/

เช่นเดียวกับ Voco โรงแรมในเครือ IHG Hotels and Resorts ผุดไอเดียการจัดกิจกรรม "Very Important Peddler" สนับสนุนการการปั่นจักรยานแทนการใช้เครื่องยนต์สำหรับนักเดินทางที่เข้าพักในโรงแรม โดยสามารถจองจักรยานฟรีเพื่อขับขี่สำรวจบริเวณรอบ ๆ โรงแรม ซึ่งจะมีแอปพลิเคชันติดตามระยะทางที่ปั่นตลอดเวลา ยิ่งผู้เข้าพักปั่นได้ระยะทางไกลก็จะยิ่งได้รางวัลและสิทธิพิเศษจากทางโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดอาหารและเครื่องดื่ม การอัปเกรดห้องพัก ข้อเสนอพิเศษสำหรับสปาทรีตเมนต์ และคะแนน IHG One Rewards ซึ่งช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ประกอบการและผู้เข้าพักผ่านกิจกรรม “รักษ์โลก”ได้เป็นอย่างดี

https://www.businesstraveller.com/business-travel/2022/12/04/ihgs-voco-brand-launches-cycling-rewards-package/

“Slow Life Low Carbon” เที่ยวเมืองไทยให้ยั่งยืน

กรณีศึกษาในประเทศไทยอย่าง มูฟมี (Muvmi) ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันเรียกรถ ได้นำเสนอ “ตุ๊กตุ๊ก” รถโดยสารอันเป็นเอกลักษณ์ของไทยให้เข้าถึงนักท่องเที่ยวทุกคนมากขึ้น พร้อมมุ่งให้บริการยกระดับสังคมบนท้องถนน เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบอิสระให้ผู้คนได้สัมผัสกับทิวทัศน์และวิถีชีวิตโดยรอบ จึงเปิดตัวแพลตฟอร์มจองรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าภายใต้แนวคิด "ทางเดียวกัน ไปด้วยกัน" โดยวิธีการใช้งานนั้นผู้โดยสารสามารถปักหมุดจุดรับส่งรถ และเลือกแชร์ที่นั่งร่วมเดินทางกับผู้โดยสารคนอื่น ๆ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีบริการ Tuk Tuk Hop ซึ่งเป็นบริการรับ – ส่งนักท่องเที่ยวแบบเหมาตลอดวันสำหรับรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติในการเยี่ยมชมสถานที่ที่น่าสนใจในกรุงเทพฯ เช่น วัดพระแก้วและวัดโพธิ์ และอื่น ๆ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการนำเสนอบริการขนส่งเพื่อร่วมกันสร้างประสบการณ์ การท่องเที่ยวที่ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม

https://hhcthailand.com/muvmi/

ธุรกิจเรือไฟฟ้าเช่าเหมาลำ ‘สุขสำราญ’ ซึ่งให้บริการนำเที่ยวบริเวณคลองบางหลวง มีความตั้งใจที่จะสนับสนุนการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับธรรมชาติและการอนุรักษ์ย่านชุมชนเก่า โดยดัดแปลงเรือที่ใช้อยู่เดิมให้กลายเป็นเรือที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าไฮบริด พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Electric Hybrid-vehicle) ด้านบนหลังคาเรือจะมีแผง Solar cell สามารถผลิตไฟได้ราว ๆ 5-8kwh ต่อวัน จึงทำให้สามารถเดินทางได้ไกลขึ้น 70 % โดยไม่มีผลกระทบต่อชุมชนรอบข้าง ช่วยลดมลพิษทางเสียงให้เงียบลงราว 20dB ลดการปล่อยมลพิษลงน้ำ และไม่มีกลิ่นควันพิษ เป็นต้น ซึ่งช่วยลดต้นทุนการให้บริการ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นผลดีต่อต้นทุนค่าใช้จ่ายของนักเดินทางอีกด้วย

https://www.youtube.com/watch?v=fEqGbOhaVHY

การเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยังเป็นส่วนหนึ่งในการเข้าถึงวิถีชีวิตของผู้คนและสะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรมในแต่ละพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งผู้ประกอบการสามารถสร้างสรรค์งานหรือกิจกรรมต่าง ๆ ประสานเข้ากับการเดินทางให้นักท่องเที่ยวไมซ์สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ดังเช่น ชุมชนส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนตำบลบางกอบัวที่ได้จัดกิจกรรมขับเคลื่อนการท่องเที่ยวชุมชน ด้วยการนำนักท่องเที่ยวนั่งเรือผ่านอุโมงค์ต้นจากเพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติด้วยการเดินทางที่ยั่งยืนในรูปแบบ Slow Route

https://www.posttoday.com/lifestyle/697462

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชุมชน นำเสนอความเป็นเอกลักษณ์และวัฒนธรรมในพื้นที่ให้กับนักท่องเที่ยว เช่น การนวดประคบด้วยสมุนไพรธรรมชาติ การทำผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติด้วยวัตถุดิบที่มีอยู่ในชุมชนผ่านกระบวนการผลิตที่ไม่ทำร้ายโลก ซึ่งจากเดิมใช้พลังงานจากถ่านก็ปรับเปลี่ยนเป็นการย้อมเย็น รวมถึงได้แวะรับประทานอาหารท้องถิ่นที่จัดซื้อวัตถุดิบจากชาวบ้าน ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ ได้สร้างความยั่งยืนที่วัดผลได้จริง โดยชุมชนตำบลบางกอบัวสามารถลดคาร์บอนให้เหลือเพียง 39 กิโลคาร์บอน จาก 70 กิโลคาร์บอนภายในระยะเวลา 2 ปี จากแนวคิดที่ต้องการจะส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยไม่สร้างภาระให้กับสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญยังช่วยให้เกิดการกระจายรายได้ในชุมชนโดยเฉพาะในพื้นที่เมืองรองอีกด้วย

https://cbtthailand.dasta.or.th/webapp/reviewTravel/content/4/
https://www.posttoday.com/lifestyle/697462

"Slow Route" ถือเป็นแนวทางทางการส่งเสริมความยั่งยืนที่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยว รวมไปถึงผู้คนในพื้นที่ในการลงมือปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รูปแบบการเดินทางและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนกลายมาเป็นความคุ้นชินในชีวิตประจำวัน โดยเริ่มจากการสนับสนุนการเดินทางที่เป็นมิตรกับโลก ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อภูมิอากาศโลก (Climate Action) ส่งเสริมให้มีการเข้าถึงระบบคมนาคมขนส่งอย่างปลอดภัยในราคาเท่าเทียม (Sustainable Cities and Communities) และสนับสนุนให้นักเดินทางเข้าถึงที่พักและร้านอาหารท้องถิ่นได้สัมผัสกับวัฒนธรรมในพื้นที่ ซึ่งเป็นการกระจายรายได้ให้ผู้ประกอบการ (Decent Work and Economic Growth) โดยเน้นการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อให้สามารถรักษาความมั่นคงของระบบนิเวศ ตลอดจนวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชุมชน เพื่อประโยชน์ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

MICE Outlook ฉบับหน้า เตรียมพบกับการนำเทรนด์ “Ambient Wellness” เข้ามาประยุกต์ใช้ในการจัดงานไมซ์ เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางความต้องการของนักเดินทางที่เปลี่ยนไป ซึ่งการจัดกิจกรรมไมซ์ที่สามารถส่งเสริม “สุขภาวะ” ใน 4 มิติ ได้แก่ ร่างกาย จิตใจ ปัญญา และสังคม ถือเป็นการเปิดโอกาสให้นักเดินทางได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของการมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน และสามารถดึงดูดความสนใจของกลุ่มนักเดินทางสายสุขภาพทั่วโลกได้ อย่าลืมติดตามไปพร้อม ๆ กัน

แหล่งอ้างอิง
ผลสำรวจ Meeting the High Expectations of the Gen Z Traveler New Report: https://skift.com/2022/06/21/meeting-the-high-expectations-of-the-gen-z-traveler-new-report/
ผลสำรวจ Booking.com: https://globalnews.booking.com/climate-community-and-choice-bookingcom-reveals-the-trends-shaping-sustainable-travel-in-2022/
ผลสำรวจ Gen Z: https://arccprograms.com/5-trends-gen-z-travelers-wont-budge-on/
ผลสำรวจ mckinsey: https://www.mckinsey.com/industries/travel-logistics-and-infrastructure/our-insights/next-stop-for-spanish-tourism-excellence-sustainability
กรณีศึกษา IHG's Voco brand launches cycling rewards package: https://www.businesstraveller.com/business-travel/2022/12/04/ihgs-voco-brand-launches-cycling-rewards-package/
กรณีศึกษา Booking.com: https://www.hospitalitynet.org/news/4113503.html และ https://partner.booking.com/th/travel-sustainable
กรณีศึกษา United Airlines: https://www.pcmag.com/news/united-airlines-aims-to-use-electric-planes-for-short-trips-by-2030
กรณีศึกษา มูฟมี: https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88/189993
กรณีศึกษา Byway: https://www.traveldailymedia.com/byway-launches-first-ever-flight-free-business-travel-planner/  และ https://www.londondaily.news/byway-launches-first-ever-flight-free-business-travel-planner/
กรณีศึกษา ชุมชนส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนตำบลบางกอบัว : https://www.posttoday.com/lifestyle/697462



Rating :