AI Summary
SCBX ตั้งเป้าเป็น AI-First Organization มีรายได้อย่างน้อย 75% ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อเพิ่มรายได้ ลดต้นทุน และยกระดับบริการลูกค้า.
การมีเป้าหมายและวิสัยทัศน์ชัดเจนก่อนเริ่มใช้งาน AI ช่วยเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม วัดผลได้ และกำหนดกรอบ ROI เพื่อติดตามค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์.
การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ทุกระดับมีส่วนร่วมเป็นหัวใจสำคัญในการใช้งาน AI ให้เกิดประโยชน์สูงสุด.
SCBX เน้น Broad AI Adoption ด้วยพื้นฐานความรู้ ทักษะ และเครื่องมือ เช่น Microsoft Copilot และพัฒนา Deep AI Development อย่างโมเดลไต้ฝุ่นสำหรับภาษาไทย และยกระดับการวิเคราะห์หุ้นผ่าน InnovestX.
การร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง Microsoft เพื่อค้นหา Use Case แลกเปลี่ยนความรู้ และสร้างระบบนิเวศ AI ที่ยั่งยืน.
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กลายเป็นเครื่องมือทรงพลังที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง และอุตสาหกรรมชั้นนำต่างนำ AI มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ เช่นเดียวกับบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX ที่มุ่งมั่นนำ AI มาเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จ
AI โอกาสใหม่ของภาคธุรกิจไทย
หากพูดถึงปัญญาประดิษฐ์ในอดีตหลายคนมองว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว แต่ในปัจจุบันภาพจำของปัญญาประดิษฐ์ได้เปลี่ยนไป หลังจากการเปิดตัว Generative AI (GenAI) ที่ได้เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้คนอย่างสิ้นเชิง ซึ่งทำให้ธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ตื่นตัว และมองเห็นศักยภาพในการสร้างโอกาสใหม่ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
คุณมาณพ เสงี่ยมบุตร ตำแหน่งรองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานการเงิน (Chief Financial Officer) บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) ได้แชร์ถึงเรื่องนี้ว่า “ทาง SCBX เราเองเห็นโอกาสของเทคโนโลยีที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และมีศักยภาพสูง เราจึงผลักดันองค์กรให้เป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินชั้นนำระดับภูมิภาค (AI-first Organization) โดยเป้าหมายคือ 75% ของธุรกิจจะต้องผสานรวม AI เข้ากับกลยุทธ์หลัก นำไปสู่การเพิ่มรายได้ ลดต้นทุน และยกระดับประสิทธิภาพการบริการลูกค้า” ด้วยวิสัยทัศน์และเป้าหมายที่ชัดเจนของ SCBX สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจที่แน่วแน่ในการนำเทคโนโลยี AI มาเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของโลกในปัจจุบันที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกแง่มุม

การมีเป้าหมายและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนก่อนที่จะเริ่มผนวกใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กับภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรมไมซ์ ถือเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐาน เนื่องจากก่อนที่จะใช้งานเทคโนโลยีผู้ประกอบการไมซ์ควรตั้งเป้าหมายว่าต้องการใช้เทคโนโลยีนี้เพื่ออะไร เช่น เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้เข้าร่วมงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดงาน เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ เป็นต้น ซึ่งการมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้สามารถเลือกใช้เทคโนโลยี AI ที่เหมาะสม สามารถวัดผลได้ และสามารถสร้างกลยุทธ์การใช้งาน AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กุญแจสำคัญในการผนวกใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินงาน ทำให้ภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรมต่าง ๆ ตื่นตัวและเร่งรีบในการนำ AI มาประยุกต์ใช้ทางธุรกิจ โดยคาดหวังผลลัพธ์ที่รวดเร็วในระยะสั้น ซึ่งอาจจะละเลยหัวใจสำคัญอันเป็นรากฐานที่ทำให้การใช้ AI เกิดประโยชน์สูงสุด และมีความยั่งยืนนั่นคือ "การสร้างวัฒนธรรมองค์กร"
คุณมาณพ ได้แชร์ถึงความสำคัญของการสร้างวัฒนธรรมองค์กรว่า “หลาย ๆ ธุรกิจ รวมทั้งผู้ประกอบการรับรู้ และเข้าใจถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เป็นอย่างดี แต่การนำมาใช้ให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมจะต้องอาศัยวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุน AI จึงเปรียบเสมือนการลงเรือลำเดียวกัน โดยมีพนักงานทุกระดับร่วมกันขับเคลื่อน” เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมไมซ์ก่อนที่จะเริ่มใช้เทคโนโลยี AI อย่างจริงจัง อาจจะต้องมองย้อนกลับไปดูว่า "ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย" ไปจนถึง "ผู้มีส่วนร่วม" ทุกคนมีความรู้ ความเข้าใจ และความพร้อมที่จะนำเทคโนโลยี AI มาใช้มากน้อยเพียงใด หากพบว่ายังขาดทักษะใดควรจะทำการเพิ่มพูนทักษะนั้น ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสร้างการมีส่วนร่วม และทำให้ทุกคนมองว่าการใช้เทคโนโลยี AI เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เพื่อพัฒนาศักยภาพและยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน

ทาง SCBX ให้ความสำคัญกับการนำ AI มาใช้ในวงกว้าง (Broad AI Adoption) ผ่านการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนให้พนักงานมีความรู้ และความเข้าใจ ทักษะในการใช้ AI ด้วยเครื่องมือต่าง ๆ เช่น Microsoft Copilot ช่วยในการบันทึกการประชุม สรุปอีเมล เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และลดข้อผิดพลาด รวมทั้งยังจัดการเทรนนิ่ง การสัมมนา เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพนักงานทุกคนจะใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในขณะเดียวกันทาง SCBX ได้นำเทคโนโลยี AI มาผนวกในการให้บริการลูกค้า เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน (Deep AI Development) ผ่านการสร้างนวัตกรรม นำเสนอโซลูชันใหม่ ๆ ตอบสนองความต้องการของลูกค้า และยกระดับประสบการณ์ทางการเงิน เช่น การสนับสนุนให้บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ (InnovestX) นำ AI มาขยายขอบเขตบทวิเคราะห์ข้อมูลการลงทุน ทำให้นักลงทุนได้รับข้อมูลครบถ้วน ครอบคลุมหุ้นและตลาดที่หลากหลาย รวมทั้งสามารถวิเคราะห์หุ้นได้กว้างขึ้น โดยที่จากเดิมที่นักวิเคราะห์หนึ่งคนสามารถวิเคราะห์หุ้นได้เพียง 5-10 ตัวเท่านั้น แต่ด้วย AI สามารถทำให้วิเคราะห์หุ้นได้หลายสิบตัวในหลากหลายตลาด ในเวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมง และสามารถสร้างรายงานวิเคราะห์ออกมาได้อัตโนมัติ โดยที่นักวิเคราะห์จะเพียงแค่ทำหน้าที่ตรวจสอบ วิเคราะห์เชิงลึก และให้มุมมองเพิ่มเติมเท่านั้น สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนถึงศักยภาพ และประโยชน์ของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่ได้เข้ามาช่วยยกระดับการทำงาน และประสบการณ์บริการที่เหนือระดับ

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เห็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในการขับเคลื่ององค์กรเป็น AI-first Organization ผู้ประกอบการจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการวัดผลลัพธ์ประสิทธิภาพและผลตอบแทนจากการลงทุน (Return on Investment หรือ ROI) ของเทคโนโลยี AI โดยคุณมาณพได้แชร์ว่า “ธุรกิจ รวมทั้งอุตสาหกรรมไมซ์ที่ได้มีการขับเคลื่อนด้วย AI จะต้องออกแบบกลยุทธ์การวัดผลการใช้งานอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อติดตามค่าใช้จ่าย และผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องมือซอฟต์แวร์ และค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมพนักงาน ตลอดจนผลประโยชน์ในการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและการเพิ่มขึ้นของรายได้” ซึ่งการวัดผลอย่างเป็นรูปธรรมจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลว่าควรปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งาน AI และสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้อย่างไร และเมื่อทราบถึงจุดอ่อน ข้อบกพร่อง จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถปรับกลยุทธ์ และขับเคลื่อนองค์กรให้สามารถใช้งานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ผนึกกำลังพันธมิตรสร้างกลยุทธ์ AI สู่ความสำเร็จ
การผนึกกำลังกับพันธมิตรถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากแต่ละอุตสาหกรรม จะมีความเชี่ยวชาญและจุดแข็งที่แตกต่างกัน รวมทั้งจะช่วยให้สามารถรวบรวมความเชี่ยวชาญ ทรัพยากร และเทคโนโลยีจากหลาย ๆ ฝ่ายเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสามารถบรรลุเป้าหมายที่ท้าทายได้ เช่นเดียวกับทาง SCBX ที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรเชิงธุรกิจ อย่างบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Microsoft Corporation ผ่านการจัดกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ
ตัวอย่างเช่น การร่วมกันค้นหาและพัฒนา Use Case ที่นำ AI ไปประยุกต์ใช้จริง การนำ AI มาวิเคราะห์บทวิเคราะห์ของบริษัทในกลุ่ม SCBX และการแชร์ความรู้ โดยที่ทุกสัปดาห์ SCBX จะจัดกิจกรรม Brainstorming เป็นเวลา 1-1.5 ชั่วโมง โดยเชิญทีมงานของทาง Microsoft และพนักงานที่ถือเป็นผู้ใช้งาน AI และ Co-pilot มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แบ่งปัน Use Case ที่นำ AI ไปใช้จริง รวมทั้งการพัฒนา "โมเดลภาษาไต้ฝุ่น" ซึ่งการผนึกกำลังกับพันธมิตร จะช่วยสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่ยั่งยืน โดยทุกฝ่ายสามารถพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน และร่วมกันสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ได้ในอนาคต

ศักยภาพของ AI กับอุตสาหกรรมไมซ์
อุตสาหกรรมไมซ์ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการเริ่มต้นก้าวกระโดดเข้าสู่การใช้เทคโนโลยี โดยเฉพาะ Generative AI ซึ่งสามารถนำมาใช้ในเชิงกว้างได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญความพร้อมของวัฒนธรรมองค์กร โครงสร้างพื้นฐานข้อมูล เครื่องมือ ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะทำให้การใช้งานเทคโนโลยีนี้เกิดประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม
โดยคุณมาณพ ได้แชร์ไอเดียกับผู้ประกอบการไมซ์ถึงการประยุกต์ใช้ AI ในเชิงกว้างว่า “อุตสาหกรรมไมซ์สามารถนำ AI เข้ามาใช้ได้ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ เช่น การสร้างสรรค์เนื้อหา, การทำ Customer Engagement และ Registration, การทำ Promotion, การทำ Marketing ตลอดจนการวิเคราะห์ผลสำเร็จหลังการจัดงาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และลดต้นทุนในการจัดงาน” เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ จึงเปรียบเสมือนพลังขับเคลื่อนอนาคตไมซ์ไทย การนำมาผนวกกับอุตสาหกรรมไมซ์ จะช่วย ปลดล็อกศักยภาพ และยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน ตลอดจนสามารถสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่า อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไมซ์จะต้องคำนึงเสมอว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง สิ่งสำคัญคือต้องนำมาใช้อย่างชาญฉลาด มีจริยธรรม ควบคู่กับกลยุทธ์ที่ชัดเจน และการส่งเสริมให้ทุกคนมีส่วนร่วม จึงจะสามารถบรรลุเป้าหมาย และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

