ในยุคที่ธุรกิจมีการแข่งขันสูง Digital Transformation คือ ส่วนสำคัญในการสร้างศักยภาพในการแข่งขันและช่วยลดกระบวนการปฏิบัติงานที่ซับซ้อน เพื่อพัฒนาไปสู่สิ่งที่ลูกค้าคาดหวัง โดยเฉพาะการบริการที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม และการจัดงานไมซ์ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง การขนส่ง การจองที่พัก รวมไปถึงการเข้าร่วมกิจกรรมและงานอีเวนท์ต่าง ๆ ที่อาจไม่ได้รับความสะดวกสบายเท่าที่ควร จะมีวิธีไหนบ้างที่ผู้ประกอบการสามารถเชื่อมโยงบริการ และกิจกรรมเข้าด้วยกัน เพื่อช่วยประหยัดเวลา ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความสะดวกสบายให้มากยิ่งขึ้น
โดยวันนี้จะพาทุกท่านมาร่วมพูดคุยไปกับ คุณจุ๋ม เสาวนีย์ วงษ์สมพิพัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของบริษัท Klook Technology ประเทศไทย ที่มาร่วมแชร์มุมมองผ่านปัญหาที่นักเดินทางส่วนใหญ่พบเจอจนนำไปสู่การออกแบบสินค้าและบริการอย่างสร้างสรรค์ ในรูปแบบของ Synced Services หรือ การบริการที่ไร้รอยต่อ เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างประสบการณ์ที่ดีในทุกช่วงของการเดินทาง
จาก Pain point สู่การออกแบบกิจกรรมให้ตอบโจทย์ชาวไมซ์
เมื่อพูดถึงการเดินทางท่องเที่ยว หรือแม้แต่การเดินทางเพื่อธุรกิจ นักเดินทางล้วนคาดหวังประสบการณ์ที่ดี “ตลอดเส้นทาง” เพื่อเติมเต็มให้จุดหมายปลายทางมีความหมาย การวางแผนเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางจึงเป็นสิ่งที่สร้างความกังวลไม่น้อยให้เหล่านักเดินทาง เนื่องจากความไม่มั่นใจในเส้นทางและรูปแบบการเดินทาง รวมถึงไม่สามารถคาดเดาได้ว่าสถานที่ปลายทางจะมีบริการที่ตอบโจทย์หรือไม่ หลายครั้งที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น สถานที่แออัด จำนวนนักท่องเที่ยวหนาแน่น ทำให้การเข้าร่วมกิจกรรมต้องใช้เวลานานจนทำให้ความสนุกและความสุขในการเดินทางลดลงไปด้วย
สิ่งที่นักเดินทางประสบพบเจอ ได้กลายมาเป็นไอเดียในการหาวิธีการช่วยเหลือนักเดินทางทั่วโลก เตรียมการและวางแผนให้พร้อมก่อนที่จะออกเดินทาง ซึ่งคุณเสาวนีย์ ได้แชร์มุมมองเรื่องนี้กับเราว่า “ทาง Klook เข้าใจดีว่าปัญหาความยากลำบากที่นักเดินทางส่วนใหญ่พบเจอ คือ การไม่ได้รับความสะดวกสบายมากพอในการเดินทางแต่ละครั้ง” จึงเกิดความมุ่งมั่น และตั้งใจในการนำเสนอบริการที่หลากหลายให้ทุกคนสามารถค้นหาและทำการจองบริการได้ง่าย ๆ บนแพลตฟอร์มเดียว
Klook - “Your world of joy” เปิดประสบการณ์แห่งความสุขได้ทุกที่ทุกเวลา
การเข้าใจถึงปัญหาและความคาดหวังที่เปลี่ยนไป ก่อให้เกิดบริการที่ครบวงจรบนแพลตฟอร์มของ Klook ซึ่งครอบคลุมทุกส่วนของการเดินทาง และการท่องเที่ยว เช่น การจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก รถไฟ รถเช่า ร้านอาหาร รวมถึงการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเข้าชมคอนเสิร์ต บัตรเข้าสวนสนุก และอื่น ๆ ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 530,000 กิจกรรม ทั้งในและต่างประเทศเพื่อให้บริการกับผู้ใช้งานทุกคน ทั้งนี้ คุณเสาวนีย์ แชร์ให้ฟังถึงจุดเด่นของ Klook สำหรับการบริการที่ไร้รอยต่อว่า “สิ่งที่ Klook ให้ความสำคัญสามส่วน ประกอบด้วย หนึ่ง Easy ความสะดวกสบาย เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน สอง Variety ความหลากหลายของบริการและกิจกรรม สาม Best Deal ราคาดี สมเหตุสมผล และทุกคนเข้าถึงได้”
https://www.klook.com/blog/how-to-book-on-klook/
Klook ไม่เพียงแค่ให้บริการสำหรับการจองเท่านั้น แต่ยังสร้างสรรค์วิธีการใหม่ ๆ ที่จะอำนวยความสะดวกสบายให้นักเดินทาง และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นจากธุรกรรมหลายขั้นตอน (Transection Cost) ด้วยการออกแบบแคมเปญ “Klook Pass” รวมกิจกรรมสนุก ๆ ไว้ในบัตรเดียว โดยนักเดินทางสามารถเลือกจำนวนกิจกรรมตามที่ต้องการ และใช้บัตรดังกล่าวในการเข้าชม หรือเข้าร่วมกิจกรรมที่เลือกไว้ด้วยราคาสุดคุ้มค่า และในอนาคตมีการวางแผนเปิดตัว “Product Category Pass” สำหรับงานเทศกาลและร้านอาหาร ซึ่งทำให้เห็นว่าการบริการที่ไร้รอยต่อนั้นสามารถทำได้ในหลากหลายรูปแบบ และหลายธุรกิจสามารถเชื่อมโยงการให้บริการเข้าด้วยกันได้
ต่อยอดธุรกิจไมซ์ด้วยการบริการที่ไร้รอยต่อ
การนำบริการและกิจกรรมต่าง ๆ เข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์มเดียว อาจมีความท้าทายทั้งด้านต้นทุน ทรัพยากร รวมถึงการเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาสิ่งที่ไม่คุ้นเคย อาจทำให้ผู้ประกอบการนั้นเกิดความกังวล อีกทั้งการเป็น “One Stop Solution for All Lifestyles” จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนซึ่งกันและกัน จนกลายเป็นคู่ค้าระยะยาว ซึ่งคุณเสาวนีย์ได้แนะนำในส่วนนี้ว่า “ผู้ประกอบการต้องทำความเข้าใจก่อนว่าจุดแข็งของธุรกิจตนเองคืออะไร หรือกำลังให้ความสำคัญกับอะไร เพื่อที่จะสามารถขยายแตกยอดธุรกิจออกไปในกลุ่มสินค้าและบริการที่ใกล้เคียงให้สามารถเสริมแรง ซึ่งกันและกันได้” เช่นเดียวกันกับ Klook ที่มีการร่วมมือกับหลาย ๆ หน่วยงาน รวมถึงผู้ประกอบการตั้งแต่ขนาดเล็กอย่าง Local Tour หรือบริการที่พัก รถเช่าในต่างจังหวัด ไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่อย่าง Disney หรือ Universal Studios เพื่อนำเสนอการบริการแก่นักเดินทาง ซึ่งมีจุดมุ่งหมาย คือ ต้องการสร้างแรงบันดาลใจจุดประกายช่วงเวลาแห่งความสุขผ่านข้อเสนอกิจกรรมในทุกรูปแบบ และครอบคลุมทุกจุดหมายปลายทางกว่า 1,000 แห่งทั่วโลก
สำหรับผู้ประกอบการที่อาจไม่เห็นภาพของการบริการที่ไร้รอยต่อว่าจะต้องเริ่มจากจุดไหน คุณเสาวนีย์ได้ยกตัวอย่างเพิ่มเติม การต่อยอดธุรกิจของกลุ่มการท่องเที่ยว ซึ่งสามารถตั้งต้นจากจุดแข็ง คือ ความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยว และการออกแบบกิจกรรมที่สามารถดึงดูดนักเดินทางที่เหมาะสมเข้ากับแต่ละพื้นที่ แล้วขยายต่อยอดไปสู่การพัฒนารูปแบบการเดินทางและการขนส่ง เช่น ตั๋ว Rail Pass บริการรับส่งสนามบิน รถเช่า จองเที่ยวบิน และจองโรงแรมในพื้นที่นั้น ๆ เป็นการต่อยอดจากธุรกิจหลักไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยอาศัยความร่วมมือหรือการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจช่วยกันต่อเติมในสิ่งที่ยังขาด เพื่อเสริมความเข้มแข็งทางธุรกิจซึ่งกันและกัน
การบริการที่ไร้รอยต่อ ไม่เพียงแค่มอบความสะดวกสบายให้แก่นักเดินทางหรือผู้ใช้บริการเพราะในขณะเดียวกันผู้ประกอบการเองก็ได้รับประโยชน์จากการนำเสนอทางเลือกที่หลากหลาย ทำให้ผลิตภัณฑ์และการบริการมีความน่าสนใจ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสการตัดสินใจซื้อมากขึ้น โดยคุณเสาวนีย์เปิดเผยกับเราว่า“จากข้อมูลผู้ที่เข้ามาใช้บริการ Klook นั้น ไม่ได้เลือกซื้อหรือมองหาบริการเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่จะซื้อสิ่งที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น เมื่อวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นก็จะซื้อตั๋ว Japan Rail Pass หรือบัตรที่ใช้เดินทางไม่จำกัดในประเทศญี่ปุ่น พร้อมกับตั๋วเข้าสวนสนุก Disneyland และตั๋วสำหรับจองร้านอาหารมิชลินด้วย ซึ่งเป็นการซื้อแบบคละหรืออาจจะข้ามผลิตภัณฑ์ (Cross category) ที่ก่อให้เกิดมูลค่าในการใช้จ่าย (Basket size) ที่ค่อนข้างสูง ถือเป็น Win-Win Situation ที่เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย”
เปลี่ยนความท้าทายให้เป็นแรงผลักดัน
ปัจจุบันหลาย ๆ ธุรกิจต้องเผชิญหน้ากับการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและไมซ์ คุณเสาวนีย์ได้แชร์มุมมองในเรื่องนี้ว่า “การทำธุรกิจ เราไม่ใช่เจ้าเดียวในตลาดและไม่ควรยึดติดการนำเสนอบริการในรูปแบบเดิม ๆ โดยไม่ศึกษาว่าคู่แข่งซึ่งนำเสนอบริการที่คล้ายกันนั้นใช้วิธีการแบบไหน หรือมีบริการอะไรที่ดีไปกว่าเรา” ผู้ประกอบการจำเป็นต้องคอยอัปเดตข้อมูล เพื่อให้ธุรกิจสามารถปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ รวมถึงเปิดโอกาสสำหรับการร่วมมือทางธุรกิจเพื่อประโยชน์ในการเข้าถึงตลาดใหม่ ๆ ให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป เมื่อนักเดินทางต่างตระหนัก และคาดหวังประสบการณ์ที่มอบความสะดวกสบาย “ไร้อุปสรรค” รูปแบบการบริการก็จะต้องปรับตัวให้สามารถตอบโจทย์นักเดินทาง เพื่อให้ธุรกิจของเรากลายเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของนักเดินทางและผู้ใช้บริการอยู่เสมอ
