ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลก และการเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ ๆ ทั้งเรื่องของ ปัญหาทางสิ่งแวดล้อม สังคม และเทคโนโลยี งาน World Expo 2025 ณ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ได้กลายเป็นพื้นที่สาธารณะระดับนานาชาติที่เปิดโอกาสให้โลกได้ร่วมกัน ออกแบบอนาคตของมนุษย์ ภายใต้แนวคิด “Designing Future Society for Our Lives” ซึ่งหมายถึงการออกแบบสังคมแห่งอนาคตโดยยึดโยงกับคุณภาพชีวิตของผู้คนอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงการจัดแสดงเทคโนโลยีหรือศิลปวัฒนธรรม แต่คือการแสดงพลังของความร่วมมือที่หลากหลายเพื่อสร้าง โมเดลสังคมแห่งวันพรุ่งนี้
MICE Outlook สัปดาห์นี้จึงจะขอพาทุกท่านไปสำรวจ 3 พาวิลเลียนเด่นจากประเทศญี่ปุ่น ประเทศเยอรมนี และประเทศสิงคโปร์ ซึ่ง MICE Intelligence Center คัดเลือกมาเพราะสามารถสะท้อนแนวคิด “Next Vision” ได้อย่างชัดเจน ไม่ใช่เพียงโชว์สิ่งที่ประเทศเป็นอยู่ แต่กำลังบอกโลกว่า “เราอยากเป็นอะไรในอนาคต” พร้อมเปิดมุมมองใหม่ให้กับอุตสาหกรรมไมซ์ไทย ว่าประสบการณ์ที่ดีไม่ได้เริ่มจากเทคโนโลยีล้ำหน้าเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่การวางวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และการ “เล่าเรื่อง” อย่างมีกลยุทธ์
MICE Outlook สัปดาห์นี้จึงจะขอพาทุกท่านไปสำรวจ 3 พาวิลเลียนเด่นจากประเทศญี่ปุ่น ประเทศเยอรมนี และประเทศสิงคโปร์ ซึ่ง MICE Intelligence Center คัดเลือกมาเพราะสามารถสะท้อนแนวคิด “Next Vision” ได้อย่างชัดเจน ไม่ใช่เพียงโชว์สิ่งที่ประเทศเป็นอยู่ แต่กำลังบอกโลกว่า “เราอยากเป็นอะไรในอนาคต” พร้อมเปิดมุมมองใหม่ให้กับอุตสาหกรรมไมซ์ไทย ว่าประสบการณ์ที่ดีไม่ได้เริ่มจากเทคโนโลยีล้ำหน้าเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่การวางวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และการ “เล่าเรื่อง” อย่างมีกลยุทธ์

What MICE Need to Know?
• ความสำเร็จของพาวิลเลียนจากประเทศญี่ปุ่น ประเทศเยอรมนี และประเทศสิงค์โปร์ในงานไมซ์ระดับโลก ไม่ได้นำเสนอแค่การใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการมีกลยุทธ์การเล่าเรื่อง (Strategic Storytelling) และการออกแบบประสบการณ์ผู้เข้าร่วม (Visitor Journey) ที่เชื่อมโยงผู้เข้าร่วมงานกับอัตลักษณ์ของชาติ (Country Identity) ได้อย่างลึกซึ้ง ช่วยสื่อสารตัวตน ถ่ายทอดวิสัยทัศน์ และสร้างบทสนทนากับโลกได้อย่างทรงพลัง
• เมื่อเนื้อหา (Content), สถาปัตยกรรม (Architecture) และ การมีส่วนร่วม (Interactivity) ถูกออกแบบร่วมกันผ่านการเล่าเรื่องที่ลึกซึ้งและทรงพลัง พาวิลเลียนของประเทศญี่ปุ่น ประเทศเยอรมนี และประเทศสิงค์โปร์ จึงจะกลายเป็น “Vision Space” พื้นที่เชิงแนวคิดที่ถ่ายทอดอัตลักษณ์ของประเทศได้ทั้งทางอารมณ์และความคิด
• เมื่อเนื้อหา (Content), สถาปัตยกรรม (Architecture) และ การมีส่วนร่วม (Interactivity) ถูกออกแบบร่วมกันผ่านการเล่าเรื่องที่ลึกซึ้งและทรงพลัง พาวิลเลียนของประเทศญี่ปุ่น ประเทศเยอรมนี และประเทศสิงค์โปร์ จึงจะกลายเป็น “Vision Space” พื้นที่เชิงแนวคิดที่ถ่ายทอดอัตลักษณ์ของประเทศได้ทั้งทางอารมณ์และความคิด

Japan Pavilion วิสัยทัศน์ที่หมุนเวียนระหว่างชีวิต
ในงาน Expo 2025 ณ เมืองโอซาก้า พาวิลเลียนจากประเทศเจ้าภาพอย่างญี่ปุ่น นำเสนอแนวความคิดผ่านประสบการณ์ที่เชื่อมโยงหัวใจของมนุษย์กับธรรมชาติและเทคโนโลยี ภายใต้ธีม “Between Lives” ที่เชิญให้ผู้เข้าชมได้สำรวจความหมายของชีวิตอย่างลึกซึ้ง ผ่านพื้นที่ที่ออกแบบอย่างเรียบง่ายแต่ทรงพลังในเชิงการเชื่อมโยง ถ่ายทอดแนวคิด “JUNKAN” หรือ “วงจรชีวิต” ซึ่งเชื่อมโยงมนุษย์ ธรรมชาติ และเทคโนโลยีเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน โดยใช้สื่อผสมหลากรูปแบบ ทั้ง XR หุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ และศิลปะร่วมสมัย เพื่อสร้างประสบการณ์ Immersive ที่ไม่เพียงให้ข้อมูล แต่ยังถ่ายทอด “ความรู้สึก” และสร้างประสบการณ์ที่ดี
โครงสร้างของพาวิลเลียนทำจากไม้ Cross-Laminated Timber (CLT) ออกแบบให้สามารถถอดและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ พร้อมระบบจัดการพลังงานชีวภาพ แสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจหมุนเวียน และทำให้ตัวพาวิลเลียนเปรียบเสมือนสิ่งมีชีวิตที่เติบโตและเคลื่อนไหวได้เอง เส้นทางภายในพาวิลเลียนถูกออกแบบให้ผู้เข้าชมสามารถเลือกทางเดินของตนเองได้ แต่ละคนจะได้พบเจอประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำกัน บางคนอาจพบกับแสงและเสียงที่ชวนให้ตั้งคำถาม บางคนอาจเจอกับปฏิสัมพันธ์ที่กระตุ้นให้ย้อนคิดถึงบทบาทของตนเองในโลก
คำถามสำคัญที่พาวิลเลียนนี้หยิบยื่นให้ เช่น “เราเป็นส่วนหนึ่งของวงจรใด?”, “เทคโนโลยีควรเป็นผู้ช่วย หรือผู้ควบคุม?” และ “เราจะรักษาความเป็นมนุษย์ไว้ได้อย่างไร ในยุคแห่งนวัตกรรม?” นี่จึงไม่ใช่พาวิลเลียนที่ออกแบบมาเพื่อสื่อสารสิ่งที่ญี่ปุ่นเป็นในปัจจุบัน แต่เป็นเวทีที่สะท้อนว่า ญี่ปุ่นอยากจะเป็น "ผู้นำด้านนวัตกรรมที่ยังรักษาจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์" เอาไว้ได้อย่างงดงาม

Germany Pavilion: พลังแห่งเทคโนโลยี สู่การขับเคลื่อนโลกใบใหญ่
พาวิลเลียนจากประเทศเยอรมนีในงาน Expo 2025 ไม่ได้เลือกเล่าเรื่องผ่านสัญลักษณ์อำนาจหรือภาพจำแบบเดิม แต่ใช้ แนวคิด “ZukunftsZellen” หรือ “Future Cells” มาเป็นจุดเริ่มต้นของการนำเสนอ แนวคิดที่ชี้ว่า “การเปลี่ยนแปลงระดับระบบ เริ่มต้นจากหน่วยเล็กที่สุด” พาวิลเลียนนี้จึงถูกออกแบบให้เป็นเหมือน ระบบนิเวศของการทดลอง ที่เชื่อมโยงมนุษย์ เทคโนโลยี และธรรมชาติเข้าด้วยกันในรูปแบบที่ มีชีวิตและหมุนเวียนได้ ด้วยชื่อว่า “Wa! Germany” พาวิลเลียนแห่งนี้สะท้อนคำว่า “Wa” ในภาษาญี่ปุ่นซึ่งหมายถึง วงจร ความกลมกลืน และความมหัศจรรย์ ตัวอาคารที่ประกอบด้วยโครงสร้างไม้รูปทรงกระบอก 7 ชิ้นที่สามารถถอดประกอบใหม่ได้ ไม่ได้เพียงแสดงถึงเศรษฐกิจหมุนเวียนในเชิงวัสดุ แต่ยังเป็นการเล่าเรื่องผ่าน สถาปัตยกรรมที่ผู้เข้าชมเลือกเส้นทางเองได้ แต่ละคนจึงได้ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนกันในนิทรรศการเดียวกัน
ภายในใช้ตัวละคร AI ชื่อ “Circulars” เป็นผู้นำชมที่ช่วยทำให้แนวคิดซับซ้อนอย่าง “ระบบวงจรปิด” และ “นวัตกรรมกระจายศูนย์” เข้าใจง่ายขึ้น ผ่านการจำลองสถานการณ์แบบ Gamified และการมีส่วนร่วมของผู้ชมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การตั้งคำถามไปจนถึงการออกแบบโลกในแบบที่ตนเองอยากเห็น ประเทศเยอรมนีไม่ได้ต้องการเป็นเพียงผู้นำด้านนวัตกรรมหรือความยั่งยืน แต่ต้องการเป็น ตัวเร่งปฏิกิริยา (Catalyst) ให้กับการเปลี่ยนผ่านของโลก ผ่านการสร้างระบบที่ทุกคนมีส่วนร่วมและต่อยอดได้อย่างไม่สิ้นสุด

Singapore Pavilion “จากโดมแห่งความฝัน สู่โมเดลเมืองแห่งอนาคตที่มีชีวิต”
เมื่อหลายประเทศเลือกใช้เวที World Expo ในการอวดโฉมนวัตกรรมล้ำสมัยหรือผลงานศิลปะระดับชาติ แต่ประเทศสิงคโปร์กลับเลือกวิธีเล่าเรื่องที่แตกต่างออกไป ไม่เน้นความใหญ่โต แต่ลงลึกในความหมาย ผ่านพาวิลเลียนทรงกลมสีแดงสดที่ชื่อว่า “The Dream Sphere” ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางโซน Saving Lives ของงาน Expo 2025 Osaka พร้อมชวนผู้เข้าชมทุกคนร่วมฝันและสร้างฝันไปด้วยกัน
ภายใต้แนวคิด “Where Dreams Take Shape” พาวิลเลียนแห่งนี้ทำหน้าที่เสมือนสนามทดลองของเมืองอัจฉริยะที่เติบโตเคียงข้างธรรมชาติ ถ่ายการทอดผ่านการเดินเรื่องแบบ Immersive ใน 3 บทหลัก ได้แก่ จุดกำเนิด เมืองยั่งยืน และอนาคตร่วม โดยใช้เทคโนโลยี AR/VR, เสียง, แสง, กลิ่น และการมีส่วนร่วมของผู้ชมในทุกมิติ เพื่อสื่อให้เห็นว่า ผู้เข้าชม ไม่ใช่เพียงผู้ชมอีกต่อไป แต่คือ ผู้ออกแบบอนาคตร่วมกัน สิ่งที่สิงคโปร์กำลังถ่ายทอดจึงไม่ใช่แค่ภาพปัจจุบันของชาติ แต่คือคำถามต่ออนาคตว่า “เมืองจะเติบโตอย่างไร โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง?” “และเทคโนโลยีจะอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืนเพียงใด?” นี่คือการเล่าเรื่องประเทศด้วยศิลปะและเทคโนโลยี” ที่ไม่เพียงให้ความรู้ แต่สร้าง “ความรู้สึก” และ “ภาพจำ” ที่คนอยากจดจำ


แนวโน้มสำคัญที่ปรากฏอย่างชัดเจนจากทั้งสามพาวิลเลียน คือการเปลี่ยนบทบาทของเทคโนโลยี จากเครื่องมือโชว์ศักยภาพ มาเป็นกลไกในการเล่าเรื่องที่น่าจดจำและชวนคิด แต่ละประเทศไม่ได้เพียงแค่สื่อสารว่าเราคือใคร แต่ตั้งใจบอกให้โลกรู้ว่า “เราอยากเป็นอะไร” ผ่านการออกแบบที่ผู้เข้าชมมีส่วนร่วมทั้งกายและใจ สิ่งนี้เองที่ทำให้พาวิลเลียนกลายเป็นมากกว่าสถาปัตยกรรม แต่เป็น Vision Space ที่ทุกองค์ประกอบเชื่อมโยงกันอย่างมีกลยุทธ์ สำหรับอุตสาหกรรมไมซ์ไทย บทเรียนสำคัญคือ การสร้างแบรนด์เมืองหรือประเทศให้ทรงพลังท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่ผันผวน การสื่อสารออกมาจึงไม่ได้เริ่มต้นที่ขนาดของการจัดงาน หรือความล้ำสมัยของเทคโนโลยี แต่เริ่มจากวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และ “การเล่าเรื่องที่มีชีวิต” เพราะสุดท้ายแล้ว ผู้ชมอาจลืมว่าเคยเห็นอะไร แต่จะไม่มีวันลืมว่าเคยรู้สึกอะไร เมื่อได้เดินผ่าน ได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์เหล่านั้น

มุมมองสำคัญจากแนวทางการออกแบบพาวิลเลียนของประเทศที่ได้ยกตัวอย่างในข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นประเทศญี่ปุ่น ประเทศเยอรมนี และประเทศสิงค์โปร์ ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าความสำเร็จของการจัดงานไมซ์ไม่ได้อยู่ที่การนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้เพียงอย่างเดียว แต่การที่ผู้จัดงานมี “กลยุทธ์การเล่าเรื่อง” (Strategic Storytelling) และการออกแบบ “Visitor Journey” ที่ดี จะทำให้ผู้เข้าร่วมงานรู้สึกถึงการมีส่วนร่วม และยังเชื่อมโยงผู้เข้าร่วมงานกับอัตลักษณ์ของประเทศนั้น ๆ นอกจากนี้ กุญแจสำคัญของแนวทางนี้ คือการสร้าง ประสบการณ์แบบ Immersive ที่ผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างผ่านเทคโนโลยีกับอัตลักษณ์ของชาติ (Country Identity) ที่ถูกถ่ายทอดอย่างมีชั้นเชิง จะช่วยสะท้อนตัวตน ถ่ายทอดวิสัยทัศน์ และสร้างบทสนทนากับโลกได้อย่างทรงพลัง ดังนั้น บทบาทของไมซ์จึงไม่ใช่แค่การจัดงานให้เกิดขึ้น แต่คือการออกแบบพื้นที่แห่งการมีส่วนร่วม (Participatory Space) ที่สร้างคุณค่าทั้งในระดับอารมณ์ และระดับกลยุทธ์ในเวลาเดียวกัน

บทความฉบับหน้า ขอชวนชาวไมซ์ไปเจาะลึกกับ “Silver Economy” กลุ่มผู้สูงวัยที่กลายเป็นพลังเศรษฐกิจสำคัญ ซึ่งทำให้การออกแบบไมซ์ไม่อาจยึดรูปแบบกลยุทธ์เดิม ๆ ได้อีกต่อไป แต่ต้องริเริ่มสร้างสรรค์ และสร้างพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ “วัยเก๋า” ได้มีส่วนร่วมกับงานไมซ์ได้เต็มรูปแบบ ต้องไม่พลาดที่จะติดตามได้ที่ MICE Intelligence Center แล้วมาร่วมเปิดมุมมองใหม่สู่อนาคตของไมซ์ไปพร้อมกัน!
แหล่งอ้างอิง :
• การออกแบบพาวิลเลียน : DP Architects Completes “The Dream Sphere,” Singapore's National Pavilion at Expo Osaka 2025
• แรงบันดาลใจในการออกแบบ : https://www.nippon.com/en/guide-to-japan/expo2025036/
• แนวคิดหลัก : https://expo2025singapore.sg/ ,https://expo2025singapore.sg/brand-story/#brand-story
• อธิบายการเดินทางผ่าน 3 บทของนิทรรศการ : https://expo2025singapore.sg/experience/
• ข้อมูลเกี่ยวกับพาวิลเลียนสิงคโปร์การจัดแสดงและแนวคิดหลัก : https://www.expo2025.or.jp/en/official-participant/singapore/
• ข้อมูลเกี่ยวกับพาวิลเลียนเยอรมนีการจัดแสดงและแนวคิดหลัก : https://expo2025germany.de/startseite-en/
• นิทรรศการภายในพาวิลเลียน: https://expo2025germany.de/ausstellung-en/
• แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน : https://expo2025germany.de/kreislaufwirtschaft-en/
• ข้อมูลพาวิลเลียนในบริบทของ Work Expo : https://www.expo2025.or.jp/en/official-participant/germany/
• การออกแบบสถาปัตยกรรมของพาวิลเลียนเยอรมนี https://www.archdaily.com/1018244/the-german-pavilion-designed-by-lava-architects-explores-circularity-at-expo-osaka-2025
• แนวคิดพาวิลเลียนญี่ปุ่น: https://2025-japan-pavilion.go.jp/en/overview/?utm_source
• ภายในพาวิลเลียน : https://www.nippon.com/en/guide-to-japan/expo2025064/japan-pavilion-between-lives.html?utm_s
• รูปภาพจาก: https://www.archdaily.com/1028817/osaka-expo-2025-japan-pavilion-nikken-sekkei/67f294182936700188d6c8d9-osaka-expo-2025-japan-pavilion-nikken-sekkei-image?next_project=no
• การออกแบบพาวิลเลียน : DP Architects Completes “The Dream Sphere,” Singapore's National Pavilion at Expo Osaka 2025
• แรงบันดาลใจในการออกแบบ : https://www.nippon.com/en/guide-to-japan/expo2025036/
• แนวคิดหลัก : https://expo2025singapore.sg/ ,https://expo2025singapore.sg/brand-story/#brand-story
• อธิบายการเดินทางผ่าน 3 บทของนิทรรศการ : https://expo2025singapore.sg/experience/
• ข้อมูลเกี่ยวกับพาวิลเลียนสิงคโปร์การจัดแสดงและแนวคิดหลัก : https://www.expo2025.or.jp/en/official-participant/singapore/
• ข้อมูลเกี่ยวกับพาวิลเลียนเยอรมนีการจัดแสดงและแนวคิดหลัก : https://expo2025germany.de/startseite-en/
• นิทรรศการภายในพาวิลเลียน: https://expo2025germany.de/ausstellung-en/
• แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน : https://expo2025germany.de/kreislaufwirtschaft-en/
• ข้อมูลพาวิลเลียนในบริบทของ Work Expo : https://www.expo2025.or.jp/en/official-participant/germany/
• การออกแบบสถาปัตยกรรมของพาวิลเลียนเยอรมนี https://www.archdaily.com/1018244/the-german-pavilion-designed-by-lava-architects-explores-circularity-at-expo-osaka-2025
• แนวคิดพาวิลเลียนญี่ปุ่น: https://2025-japan-pavilion.go.jp/en/overview/?utm_source
• ภายในพาวิลเลียน : https://www.nippon.com/en/guide-to-japan/expo2025064/japan-pavilion-between-lives.html?utm_s
• รูปภาพจาก: https://www.archdaily.com/1028817/osaka-expo-2025-japan-pavilion-nikken-sekkei/67f294182936700188d6c8d9-osaka-expo-2025-japan-pavilion-nikken-sekkei-image?next_project=no