สรุปโดย AI
การใช้ AI ในไมซ์มีประโยชน์และความเสี่ยง ต้องใช้งานอย่างรับผิดชอบ เคารพสิทธิมนุษยชน ตรวจสอบข้อมูล สื่อสารอย่างโปร่งใส
ภาครัฐ เอกชน และบริษัทพัฒนา AI ทั่วโลกตระหนักถึงปัญหาจริยธรรม จึงร่วมขับเคลื่อน AI Ethics ให้เป็นรูปธรรม
กรณี Willy Wonka สกอตแลนด์ที่ใช้ Generative AI ออกแบบภาพประชาสัมพันธ์ แต่จัดงานไม่ตรงโปรโมท ทำให้ผู้เข้าร่วมผิดหวัง สอนให้ตรวจสอบแหล่งที่มาและใช้วิจารณญาณ
การใช้งาน Generative AI ยังกระทบด้านลิขสิทธิ์ ศิลปะ และความคาดหวังของผู้ชม งานเช่น Bangkok Design Week 2024 กระทบมุมมองต่อศิลปินไทย
การใช้งาน Facial Recognition มีประเด็นความเป็นส่วนตัว ต้องมีความรับผิดชอบ เคารพสิทธิ์ และสอดคล้องกรอบ Responsible AI และกฎหมาย เช่น EU AI Act และแนวปฏิบัติไทย
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เปรียบเสมือนเครื่องมือทรงพลังที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้เข้าร่วมงาน เพิ่มประสิทธิภาพการจัดงาน และสร้างโอกาสใหม่ ๆ มากมายให้กับอุตสาหกรรมไมซ์ แต่การนำ AI มาประยุกต์ใช้ จำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ คำนึงถึงจริยธรรมและผลกระทบที่ตามมา เพื่อให้การจัดงานไมซ์มีประสิทธิภาพ สร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคม และสร้างภาพลักษณ์ที่ดี
Key takeaways
การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ในการสร้างสรรค์กิจกรรมไมซ์สามารถก่อให้เกิดทั้งประโยชน์ และความเสี่ยง ผู้ประกอบการไมซ์จึงต้องใช้งานอย่างมีความรับผิดชอบ เคารพถึงสิทธิมนุษยชน ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล สื่อสารอย่างโปร่งใส เพื่อป้องกันปัญหาด้านจริยธรรม และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับการจัดงานไมซ์
ภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงบริษัทผู้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ทั่วโลกได้ตระหนักถึงปัญหาด้านจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ จึงร่วมมือกันในการขับเคลื่อนจริยธรรม (AI Ethics) ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
การจัดนิทรรศการ "Willy Wonka" ณ ประเทศสกอตแลนด์ ผู้จัดงานใช้ Generative AI ออกแบบภาพประชาสัมพันธ์ "Willy's Chocolate Experience" ซึ่งสามารถดึงดูดผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม การจัดงานถูกจัดขึ้นในโกดังที่ตกแต่งด้วยวัสดุราคาถูก และกิจกรรมไม่สนุกเหมือนที่โปรโมตไว้ ทำให้ผู้เข้าร่วมงานผิดหวัง

จริยธรรม AI หลักการสำคัญสำหรับการจัดกิจกรรมไมซ์
การใช้งานปัญญาประดิษฐ์ในอุตสาหกรรมภาคบริการ รวมถึงอุตสาหกรรมไมซ์เป็นที่นิยม และแพร่หลายมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในด้านการพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดผ่านการออกแบบเนื้อหาอย่างสร้างสรรค์ และสร้างประสบการณ์ที่เหนือระดับให้แก่นักเดินทางไมซ์ได้ อย่างไรก็ตาม การใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าวอย่างไร้หลักการจะนำมาสู่ “ปัญหาทางจริยธรรม” ได้ เช่น ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน และความเป็นส่วนตัว การสร้างสรรค์ข้อมูลที่คาดเคลื่อนจนก่อให้เกิดการเข้าใจที่บิดเบือน เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการจัดงานไมซ์
ดังตัวอย่างกรณีศึกษาของการจัดงานนิทรรศการ Willy Wonka ณ ประเทศสกอตแลนด์ ที่ได้นำการใช้ Generative AI เข้ามาช่วยในการออกแบบภาพประชาสัมพันธ์ “Willy's Chocolate Experience” โดยได้ทำการโฆษณาไปยังช่องทางต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ เพื่อเชิญชวนผู้เข้าร่วมงานสัมผัสประสบการณ์ดินแดนแห่งช็อกโกแลต ด้วยสื่อประชาสัมพันธ์ที่สวยงาม น่าตื่นตาตื่นใจ ทำให้ผู้เข้าร่วมงานจำนวนมากสนใจซื้อบัตร และคาดหวังที่จะได้พบกับประสบการณ์ที่แปลกใหม่จากการร่วมงาน

อย่างไรก็ตาม นิทรรศการ Willy Wonka กลับถูกจัดขึ้น ณ โกดังแห่งหนึ่ง ที่ถูกตกแต่งด้วยฉากพลาสติกราคาถูก และวางกระจัดกระจายอย่างไร้ระเบียบ นักแสดง ตัวละครต่าง ๆ ที่เตรียมต้อนรับผู้เข้าร่วมงานแต่งกายด้วยชุดราคาถูก กิจกรรมภายในงานไม่สนุก ตื่นเต้น เหมือนที่โปรโมตไว้ ซึ่งทำให้ผู้เข้าร่วมงานผิดหวังเป็นอย่างมาก และเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักบนโลกออนไลน์ เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงบทเรียนสำคัญสองประการคือ ประการแรก เครื่องมือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด ในการสร้างภาพที่สวยงาม เพื่อให้สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานได้ ประการที่สอง ผู้เข้าร่วมงานจำเป็นต้องใช้วิจารณญาณ และพิจารณาถึงความน่าเชื่อถือของการจัดงาน ผ่านการตรวจสอบที่มาที่ไปอย่างละเอียด ค้นหาข้อมูลผู้จัดงาน เพื่อให้ไม่หลงกลกับภาพประชาสัมพันธ์ที่สวยงาม ทั้งนี้ หากไม่แน่ใจข้อมูล สามารถปรึกษาหรือติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอข้อมูลได้ เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น

นอกจากนี้การใช้งานของ Generative AI ยังมีข้อกังวลด้านจริยธรรมในประเด็นของ การคัดลอกเนื้อหา รวมทั้งมุมมองในเชิง ศิลปะ ว่า การใช้ AI อย่าง ChatGPT, Dall-E, Midjourney, StableDiffusion เป็นต้น ในการออกแบบผลงาน ขาดความคิดสร้างสรรค์ และ ลดทอนคุณค่าของงานศิลปะ ตัวอย่างงาน “Bangkok Design Week 2024” ที่เลือกใช้ภาพโปรโมตงานจาก AI แทนที่จะให้ศิลปินออกแบบ ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากเหล่านักออกแบบจำนวนมาก ถึงการปิดกั้นโอกาส และลดทอนความสามารถของศิลปินไทย สะท้อนให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อย่าง Generative AI ในการออกแบบผลงานสร้างสรรค์ที่ผู้จัดงานต้องคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อภาพลักษณ์ในการจัดงาน

อีกหนึ่งข้อกังวลของการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์คือ ความเสี่ยงที่เกิดจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน และความเป็นส่วนตัวของผู้เข้าร่วมกิจกรรม ตัวอย่างเช่น การใช้เทคโนโลยี Facial Recognition ที่ได้นำระบบปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยจดจำใบหน้า เพื่อยืนยันตัวตน มักนิยมใช้ในการเช็กอินที่พัก การลงทะเบียนเข้าร่วมงาน เนื่องจากมีความสะดวก รวดเร็ว รวมทั้งยังช่วยยกระดับความปลอดภัยแก่ผู้เข้าร่วมงาน อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีดังกล่าว ทำให้หลาย ๆ หน่วยงานตลอดจนผู้เข้าร่วมงานกังวลถึงข้อมูลส่วนบุคคล เพราะการวิเคราะห์ข้อมูลใบหน้า ถือเป็นข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน และการเก็บรวบรวมใช้งานข้อมูลเหล่านี้อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด ดังนั้น การยกระดับการจัดงานไมซ์ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ให้ประสบความสำเร็จ ต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม เคารพสิทธิมนุษยชน และความเป็นส่วนตัวของผู้เข้าร่วมงานทุกคน

“Responsible AI” กรอบแนวคิดเพื่อการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อย่างยั่งยืน
ศักยภาพของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ไร้ขีดจำกัด แต่ในขณะเดียวกัน หากผู้ใช้งานประยุกต์ใช้อย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือไม่มีความรับผิดชอบ จะนำไปสู่ปัญหาทางจริยธรรม อย่างไรก็ตาม ทางภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงบริษัทผู้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ทั่วโลกได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงร่วมมือกันขับเคลื่อนจริยธรรมในการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI Ethics) ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น เพื่อปูรากฐานไปสู่การใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible AI)
โดยสหภาพยุโรป (EU) ได้อนุมัติกฎหมายควบคุมปัญญาประดิษฐ์ครั้งแรกของโลก ที่จะเริ่มบังคับใช้ปี 2568 ซึ่งกฎหมายฉบับนี้จะช่วยส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรม และปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐาน ผ่านการตรวจสอบความเสี่ยงการใช้งาน AI รูปแบบต่าง ๆ และการเพิ่มความรับผิดชอบของผู้ผลิต AI เป็นต้น เช่นเดียวกับประเทศไทยที่หลายภาคส่วนทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ได้ออกมาเคลื่อนไหวในการให้ข้อมูลด้านจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์แก่ประชาชน อย่างสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ได้มีการร่วมมือกับบริษัท ไมโครซอฟต์ ในการออก “หลักการและแนวทางจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ของประเทศไทย” ซึ่งให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและการป้องกันข้อมูล (Data Protection) เพื่อนำไปสู่จุดสมดุลระหว่างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและจริยธรรม ซึ่งความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นทั่วโลก ถือเป็นการส่งสัญญาที่ดีในการขับเคลื่อนประเด็นด้านจริยธรรมของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์

การใช้ปัญญาประดิษฐ์เป็นเครื่องมือช่วยในการสร้างสรรค์กิจกรรมไมซ์ ถือเป็นการนำนวัตกรรมที่มีมายกระดับประสิทธิภาพของการดำเนินงาน ในขณะเดียวกันสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไปคือ ผู้ประกอบการไมซ์จำเป็นต้องระมัดระวังในการใช้เครื่องมือนี้ด้วยความรับผิดชอบ เช่น การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล การไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่สื่อสารเกินความเป็นจริง สื่อสารกับผู้เข้าร่วมงานให้ทราบหากมีการเก็บข้อมูล เป็นต้น เพื่อป้องกันการเกิดผลกระทบต่อสังคม และภาพลักษณ์ของการจัดงาน อย่างไรก็ตาม ในอนาคตการใช้ปัญญาประดิษฐ์จะมีข้อกำหนดและกฎหมายที่มีความเป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จะถูกนำไปใช้ เพื่อประโยชน์ของผู้เข้าร่วมงาน สังคม และอนาคตที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรมไมซ์
MICE Outlook สัปดาห์หน้า เราจะพาทุกท่านร่วมเจาะลึกข่าวสารการเคลื่อนไหวของภาครัฐ ในการเสนอให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน Formula One 2027 พร้อมวิเคราะห์โอกาสและความท้าทาย ที่ประเทศไทยจะได้รับ ไม่พลาดที่จะติดตามเนื้อหาที่เข้มข้น ครบทุกแง่มุม!
