UNESCO Creative City Network เป็นสถานะที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก (Global Recognition) ที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับเมืองและประเทศ ยกระดับภาพลักษณ์และชื่อเสียงในเวทีสากล และเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการโปรโมทและเผยแพร่ทุนทางวัฒนธรรมของเมืองสู่เวทีนานาชาติ อย่างไรก็ตาม สถานะดังกล่าวมาพร้อมกับพันธกรณีและความรับผิดชอบ (Commitment) ที่เมืองสมาชิกต้องดำเนินการให้บรรลุผลอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม เพื่อรักษามาตรฐานและคงความเป็นสมาชิกในเครือข่ายระดับโลกนี้
ดังนั้น รายงานฉบับนี้จึงจัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและกรอบการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมในการคงรักษาสถานะของการเป็นเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกให้มั่นคงและยั่งยืน พร้อมทั้งยกระดับเศรษฐกิจเมืองอย่างเป็นระบบและครอบคลุมทุกมิติตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ โดยใช้อุตสาหกรรมไมซ์เป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์หลักในการขับเคลื่อน
กลไก 3S เพื่อการขับเคลื่อน ประกอบด้วย Stimulate (กระตุ้น) ความต้องการและการลงทุนเชิงสร้างสรรค์ ผ่านการสร้างแรงจูงใจและโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการและผู้สร้างสรรค์ในท้องถิ่น Support (สนับสนุน) ทรัพยากร โครงสร้างพื้นฐาน องค์ความรู้ และเครือข่ายความร่วมมือที่เอื้อต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มในการพัฒนาและยกระดับศักยภาพ และ Promote (ส่งเสริม) ภาพลักษณ์ การรับรู้ และการเข้าถึงตลาดระดับสากล ผ่านการสร้างแบรนด์เมืองและการเชื่อมโยงกับเครือข่ายนานาชาติ
ผลลัพธ์ 3P ที่คาดหวัง กลไกดังกล่าวจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมใน 3 มิติ คือ Preserve (รักษา) มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของเมืองให้คงอยู่และสืบทอดต่อไปยังคนรุ่นใหม่ ผ่านกระบวนการอนุรักษ์ที่ผสมผสานกับการใช้ประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ Practice (ปฏิบัติ) ผ่านการนำไปใช้จริงในชีวิตประจำวัน การสร้างกิจกรรมและประสบการณ์ที่สัมผัสได้ และการถอดบทเรียนเพื่อพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และ Innovate (สร้างสรรค์) ด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ นวัตกรรม และองค์ความรู้ร่วมสมัยมาผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสร้างคุณค่าใหม่และขยายขอบเขตการใช้ประโยชน์
การดำเนินงานตามกรอบนี้จะทำให้ทุนทางวัฒนธรรมและทุนความคิดสร้างสรรค์ของเมืองมีความเข้มแข็ง สามารถเชื่อมโยงกันเป็นระบบนิเวศที่สมบูรณ์ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาเมืองในหลายมิติอย่างสมดุลและยั่งยืน ทั้งในมิติเศรษฐกิจ ผ่านการสร้างรายได้ การจ้างงาน และการดึงดูดการลงทุน มิติสังคม ผ่านการพัฒนาคุณภาพชีวิต การสร้างความภาคภูมิใจในท้องถิ่น และการเสริมสร้างทุนทางสังคม และมิติสิ่งแวดล้อม ผ่านการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างรับผิดชอบและการส่งเสริมการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งหมดนี้จะช่วยให้เมืองสามารถรักษาสถานะ UNESCO Creative City ได้อย่างมั่นคง พร้อมทั้งเป็นต้นแบบที่สามารถขยายผลและถ่ายทอดไปยังเมืองอื่นๆ ได้ในอนาคต