MICE Future-Ready: Revolutionizing Tomorrow’s Business Landscape ปฏิวัติภูมิทัศน์การจัดงานไมซ์ในอนาคต

Author : mice intelligence team
Views 783 | 06 Dec 2024
การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปี 2024 ได้กลายมาเป็นบทพิสูจน์สำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อแนวทางในการจัดงานไมซ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับตัวให้เท่าทันต่อสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ส่งผลให้ผู้ประกอบการไมซ์ต้องเผชิญกับอุปสรรคทางต้นทุน และความกดดันเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไมซ์ต้องมีความยืดหยุ่น (Resilience) ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลง รวมถึงพร้อมปรับตัวเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในยุคที่บริบทของโลกทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

MICE Outlook สัปดาห์นี้ ขอพาทุกท่านย้อนกลับไปสำรวจทิศทางสำคัญที่ได้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมไมซ์ในปีที่ผ่านมา และเดินหน้าสู่อนาคตในปี 2025 กับ “Future-Ready: Revolutionizing Tomorrow’s Business Landscape” ที่จะพาคุณสำรวจแนวโน้มใหม่ในอุตสาหกรรมไมซ์ พร้อมทั้งเหตุการณ์สำคัญที่ผู้ประกอบการไมซ์ไม่ควรพลาด เพื่อเสริมศักยภาพในการปรับตัวและขับเคลื่อนกิจกรรมไมซ์สู่ความยั่งยืนในอนาคตอย่างมั่นคง


Key takeaway

• ในปี 2025 รูปแบบการจัดงานจะมุ่งเน้นไปที่การสร้างประสบการณ์ที่มีปฏิสัมพันธ์มากขึ้น พร้อมกับแนวคิดสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์จะประกอบด้วยการมุ่งเน้นนวัตกรรมและการเชื่อมโยง (Next Gen Mindset), การพัฒนาอย่างยั่งยืนและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม (Regenerative Sustainability), การสร้างปฏิสัมพันธ์ผ่านเทคโนโลยี (Innovation Interaction), และการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI (Data และ AI Impact) เพื่อทำความเข้าใจความต้องการที่ซับซ้อนของผู้เข้าร่วมงาน แนวทางเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการไมซ์สร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืน


“ความท้าทายของอุตสาหกรรมไมซ์ในปี 2024”

ในปี 2024 อุตสาหกรรมไมซ์ ยังคงได้รับการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องด้วยปัจจัยสำคัญหลายด้าน โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และการให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในการจัดงาน ซึ่งกลายเป็นหัวใจสำคัญในการดึงดูดความสนใจ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้เข้าร่วมงานในยุคปัจจุบัน ตัวอย่างที่โดดเด่นคือการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Generative AI) เข้ามาช่วยในการออกแบบและบริหารจัดการงานไมซ์ เช่น การสร้างประสบการณ์ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับผู้เข้าร่วมงานแต่ละกลุ่ม การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อตอบสนองความต้องการได้แม่นยำ รวมถึงการใช้เครื่องมือ GhatGPT, Gemini, AR และ VR เพื่อเพิ่มมิติใหม่ และความน่าสนใจให้กับการจัดงาน ในขณะเดียวกัน ในเรื่องของความยั่งยืนที่งานโอลิมปิกปารีส 2024 ได้นำแนวคิดนี้มาเป็นแก่นหลัก ด้วยการออกแบบงานที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งสร้างความสมดุลระหว่างการพัฒนาเมืองและการตอบสนองความต้องการของนักเดินทางและชุมชน

อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมไมซ์ยังต้องเผชิญกับความท้าทายจากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายใน เช่น ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น รวมถึงปัจจัยภายนอก เช่น ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง สังคม และเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ปัจจัยเชิงภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความตึงเครียดในภูมิภาคต่าง ๆ และผลกระทบด้านนโยบายการเมืองและเศรษฐกิจที่มาจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2024 อาจกระทบต่อเรื่องของการเดินทางและการจัดกิจกรรมระดับนานาชาติ รวมถึงความเชื่อมั่น และการตัดสินใจลงทุนของต่างชาติในปี 2025 ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาดูกันต่อไป ในขณะเดียวกันกลุ่มนักเดินทางไมซ์ Gen Z และ Millennials จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นต่อการจัดงานในอนาคต จากพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มนักเดินทางนี้จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ให้เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใหม่


“แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมไมซ์ในปี 2025 กับ MICE Intelligence”

การจัดงานไมซ์ในปี 2025 จะมุ่งเน้นไปที่การตอบสนองความสนใจ และนำเสนอรูปแบบการจัดงานที่สอดรับกับพฤติกรรมของกลุ่มนักเดินทางไมซ์ โดยกลุ่มเป้าหมายหลักที่มีบทบาทสำคัญประกอบด้วย 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กลุ่ม Gen Z และ Millennials นักเดินทางกลุ่มนี้มองหาประสบการณ์ที่มีเอกลักษณ์ และมีคุณค่า (Return on Experience - ROX) ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ส่วนบุคคลที่สอดคล้องกับความสนใจเฉพาะตัว รวมถึงการใช้เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมในงาน ความยั่งยืนและแนวทางฟื้นฟู (Sustainability and Regenerative Practices) การตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมและการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมกลายเป็นปัจจัยสำคัญ นักเดินทางไมซ์ยุคใหม่ให้ความสำคัญกับการเข้าร่วมงานที่สนับสนุนการลดคาร์บอนฟุตพรินต์ การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า สร้างผลกระทบเชิงบวก (Regenerative Practices) และการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น ชุมชน LGBTQ+ นักเดินทางกลุ่มนี้มองหาสภาพแวดล้อมที่ให้ความเคารพและยอมรับในความหลากหลาย โดยผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับการสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัย มีความเท่าเทียม และสอดคล้องกับค่านิยมของชุมชน เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างความคิดสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่กลายเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำสำหรับนักท่องเที่ยว LGBTQ+


นอกจาก แนวโน้มพฤติกรรมของนักเดินทางไมซ์ที่ผู้ประกอบการไมซ์ต้องให้ความสำคัญแล้ว อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือ แนวคิดหลักในการขับเคลื่อนงานไมซ์ให้ตอบโจทย์และสอดคล้องกับยุคสมัยใหม่มากยิ่งขึ้น ซึ่งทาง MICE Intelligence Center เผยถึง 4 แนวคิดสำคัญ ได้แก่ 1. Next Gen Mindset กรอบความคิดที่มุ่งเน้นนวัตกรรม การเปลี่ยนแปลง และความเชื่อมโยงที่ครอบคลุม คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Millennials และ Gen Z ให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าร่วมกัน (Shared value) มากกว่าผลกำไรเพียงอย่างเดียว โดยคนรุ่นนี้มองว่าเทคโนโลยีและความยั่งยืนไม่ใช่แค่ “ตัวเลือก” แต่เป็น “พื้นฐาน” ของการทำธุรกิจและการใช้ชีวิต 2. Regenerative Sustainability ยกระดับจากแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน (sustainability) สู่การฟื้นฟู และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ 3. Innovation Interaction ผ่านการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ การคิดสร้างสรรค์ และการเชื่อมโยงไอเดียจากหลากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคโนโลยี AR/VR หรือแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เปิดพื้นที่ให้ผู้คนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง สุดท้าย 4. Data และ AI Impact วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้เข้าใจความต้องการของผู้เข้าร่วมงาน และต่อยอดการจัดกิจกรรมไมซ์ในอนาคต


ดังนั้น การนำ 4 แกนสำคัญ ได้แก่ Next Gen Mindset, Regenerative Sustainability, Innovation Interaction, และ Data & AI Impact มาประยุกต์ใช้ จะช่วยให้ผู้ประกอบการไมซ์เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน โดยการออกแบบงานที่ตอบโจทย์พฤติกรรมและความต้องการของคนรุ่นใหม่ พร้อมสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง แนวคิด Regenerative Sustainability ช่วยเสริมภาพลักษณ์องค์กรผ่านการออกแบบงานที่ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน เพิ่มโอกาสในการได้รับการยอมรับจากผู้เข้าร่วมงาน และพันธมิตร Innovation Interaction ช่วยยกระดับประสบการณ์ผู้เข้าร่วมด้วยเทคโนโลยีและกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้และการแลกเปลี่ยนความคิดอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ Data และ AI Impact สนับสนุนการวิเคราะห์ข้อมูลและการคาดการณ์เพื่อปรับปรุงงานให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เข้าร่วมแบบเรียลไทม์ ทั้งนี้ การผนวกทั้ง 4 แกนเข้าด้วยกันไม่เพียงช่วยสร้างความสำเร็จในระยะสั้น แต่ยังสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจไมซ์ในระยะยาวอย่างยั่งยืน โดยสร้างคุณค่าให้กับผู้เข้าร่วมงาน พันธมิตร และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย


MICE Outlook สัปดาห์หน้าเตรียมพบกับบทความที่เราจะพาผู้ประกอบการไมซ์ เจาะลึกไปยังแนวคิดที่ยกระดับการพัฒนาที่ยั่งยืนในการจัดงาน Regenerative Sustainability โดยมุ่งเน้นการสร้างผลลัพธ์ที่เป็นบวก และการฟื้นฟูทรัพยากรที่ถูกใช้ไป เพื่อให้สิ่งแวดล้อม และชุมชนสามารถเติบโตได้ในระยะยาว 
Rating :