The Immersive Power of Virtual Experience พลิกโฉมภูมิทัศน์การจัดงานไมซ์ ด้วยประสบการณ์บนโลกเสมือนจริง

Author : MICE Intelligence Team
Views 3212 | 02 Aug 2023
การเปิดตัวแว่นตาสุดล้ำอย่าง Vision Pro จาก Apple เมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2566 ที่ผ่านมาเป็นการปลุกกระแสของเทคโนโลยีช่วยสร้างประสบการณ์เสมือนจริงให้กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งเพราะคุณสมบัติของแว่นตาที่สามารถผสานโลกจริงและโลกเสมือนไว้ด้วยกันผ่านเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ทำให้เมื่อสวมใส่แว่นผู้ใช้สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับโลกดิจิทัลได้ผ่านการมอง เสียง และการเคลื่อนไหวโดยไม่ต้องสัมผัส ซึ่งการใช้งานสามารถนำไปใช้ได้หลายด้าน เช่น เพื่อความบันเทิง การประชุมทางไกล เป็นต้น

https://www.apple.com/apple-vision-pro/


นอกจากนี้เทคโนโลยีช่วยสร้างประสบการณ์เสมือนจริง ไม่ว่าจะเป็น AR (Augmented Reality), VR (Virtual Reality), MR (Mixed Reality) รวมถึง Metaverse ยังถูกนำมาประยุกต์ใช้ในหลายกิจกรรม โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวและการจัดงานเพื่อสร้างประสบการณ์อันแปลกใหม่ให้นักเดินทางและผู้เข้าร่วมงานไมซ์ ในขณะเดียวกันยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ขององค์การสหประชาชาติ ในเป้าหมายที่ 8 การส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง ครอบคลุมและยั่งยืน การจ้างงานเต็มที่ มีผลิตภาพ และการมีงานที่เหมาะสมสำหรับทุกคน เป้าหมายที่ 9 สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีความทนทาน ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมและยั่งยืน และส่งเสริมนวัตกรรม เป้าหมายที่ 10 การลดความไม่เสมอภาคภายในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงเป้าหมายที่ 13 การปฏิบัติการอย่างเร่งด่วนเพื่อต่อสู้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบที่เกิดขึ้น
 
MICE Outlook ฉบับเดือน สิงหาคมนี้ จะพาทุกคนมาร่วมสำรวจกรณีศึกษาจากประเทศไทยและต่างประเทศ ในการนำเทคโนโลยีเสมือนจริงมาสร้างสรรค์งานไมซ์มอบประสบการณ์แบบ “Immersive Experience” ที่สอดรับกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อเปิดโอกาสให้นักเดินทางและผู้ร่วมงานไมซ์สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้อย่างอิสระ  รวมถึงการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมจากการเชื่อมต่อโลกเสมือนและโลกแห่งความเป็นจริงเข้าด้วยกัน


Key takeaways
- การนำเทคโนโลยีเสมือนจริงเข้ามาประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมไมซ์ ไม่เพียงแต่สร้างประสบการณ์ Immersive Experience เท่านั้น แต่ยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ขององค์การสหประชาชาติในหลากหลายด้าน
- การประชุม จัดงานอีเวนต์หรือกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริงทำให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถร่วมกิจกรรมผ่านออนไลน์ได้ทุกที่ทั่วโลก สามารถเพิ่มโอกาสการเข้าถึงของผู้คนอย่างเท่าเทียม และมีส่วนสำคัญในการลดมลพิษที่ทำลายสิ่งแวดล้อมจากการใช้ทรัพยากรจำนวนมากในการจัดงานแต่ละครั้ง
- แนวโน้มของการจัดงานผ่านเทคโนโลยีช่วยสร้างประสบการณ์เสมือนจริงได้รับความนิยมจากผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงาน โดยจะเข้ามาเป็นส่วนเสริมในการจัดงานให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการเพิ่มมูลค่าของสินค้าและบริการก่อให้เกิดการเติบโต และสร้างผลกระทบเชิงบวกทางเศรษฐกิจได้



ผู้เข้าร่วมงานไมซ์ต่างคาดหวังให้ผู้จัดงานปรับรูปแบบการนำเสนอกิจกรรมต่าง ๆ เข้าสู่โลกเสมือนจริงอีกทั้งยังรู้สึกพึงพอใจหากผู้จัดงานสามารถมอบประสบการณ์บนโลกเสมือนจริงได้ ทั้งนี้ ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาแม้เทคโนโลยีและสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ได้เข้ามามีบทบาทกับกิจกรรมและการจัดงานไมซ์จนกลายเป็นความปกติใหม่ที่ทุกคนคุ้นชิน ไม่ว่าจะเป็นการประชุมผ่านทาง Video Conference การจัดงานแบบ Virtual Event หรือ Virtual Exhibition แต่สิ่งสำคัญที่ผู้จัดงานต้องตระหนัก คือ กิจกรรมเสมือนจริงจะไม่ใช่แค่กิจกรรมแบบดั้งเดิมในรูปแบบออนไลน์เพียงเท่านั้น แต่ต้องสามารถตอบสนองต่อความคาดหวังความสะดวกสบาย เกิดประโยชน์แก่ผู้จัดงาน และสร้างความความสุขให้ผู้เข้าร่วมงานด้วย

กรณีศึกษาที่น่าสนใจอย่าง Van Gogh Museum ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์โดยเฉลี่ยมียอดนักเดินทางเข้าชมงานศิลปะ 1.3 ล้านคนต่อปี แต่ในปัจจุบันสามารถเพิ่มผู้เข้าชมผลงานศิลปะของ Vincent Van Gogh ได้กว่า 8.5 ล้านคนจากทั่วทุกมุมโลก Van Gogh Museum ทำอย่างไรถึงสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นได้หลายเท่าตัว ?
https://vangoghexpo.com
https://www.shine.cn/feature/art-culture/2304098917/

ผลงานระดับตำนานของ Vincent Van Gogh ได้ปรับวิธีการจัดแสดงโดยผสมผสานการนำเทคโนโลยีโลกเสมือนจริงในรูปแบบ Immersive Multi-Sensory Experience มาแต่งแต้มผลงานศิลปะอายุหลายร้อยปีให้มีชีวิตชีวา และยกผลงานศิลปะออกท่องโลกกว่า 80 เมือง อาทิ ปักกิ่ง, เบอร์ลิน, เดนเวอร์, ลอนดอน, มาดริด, มอสโก, โรม, ซิดนีย์, แฟรงค์เฟิร์ต, นาโกย่า และกัวลาลัมเปอร์ เป็นต้น โดยใช้ชื่อว่า “Van Gogh The Immersive Experience” จนได้รับรางวัลประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดในโลกปี 2021 จาก USA Today และถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน 12 ประสบการณ์การดื่มด่ำที่ดีที่สุดในโลกจาก Cable News Network (CNN) เนื่องจากสามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เข้าชม และสร้างโอกาสให้ผู้คนจากทุกมุมโลกร่วมเพลิดเพลินไปกับงานนิทรรศการที่แตกต่างไปจากเดิม ซึ่งการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเสมือนจริงสามารถตอบสนองความต้องการของผู้เข้าชมได้อย่างลงตัว ทั้งการให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับผลงานศิลปะและความสนุกสนาน

เทคโนโลยีสร้างประสบการณ์เสมือนจริงหรือ “Virtual Experience” ยังคงมีแนวโน้มสำคัญในการขับเคลื่อนและต่อยอดธุรกิจในอุตสาหกรรมไมซ์ ซึ่งในหลาย ๆ กิจกรรมกำลังดำเนินการเข้าสู่โลกเสมือนที่สมจริง ทำให้ให้โลกกายภาพกับโลกดิจิทัลเชื่อมต่อกันอย่างไร้รอยต่อ เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกที่สำคัญต่อสังคม เช่น การจัดงานคอนเสิร์ตบนโลกเสมือนจริง “Decentraland Metaverse Music Festival 2022” ที่มีเป้าหมาย คือ การสร้างความบันเทิงและส่งเสริมชุมชน
https://themetaversefestival.io/
https://www.youtube.com/watch?v=CPcOk2sKzCM&t=36s

เทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ มีศิลปินกว่า 200 คนเข้าร่วมงาน อาทิ Björk, Ozzy Osbourne, Souljaboy, Dillon Fancis, Atarashii Gakko!, Breland, Izzu Bizu, Akira the Don และอีกมากมาย ผู้ชมทั่วโลกสามารถเพลิดเพลินกับงานคอนเสิร์ตผ่านเบราว์เซอร์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเข้าร่วมงานได้ ส่งผลให้มียอดการเข้าร่วมรับชมกว่า 8.67 ล้านครั้ง และกว่า 50% ของผู้เข้าร่วมงานเป็นผู้ใช้ใหม่ โดยภายในงานเปิดโอกาสให้สมาชิกในชุมชนได้แสดงความสามารถและร่วมกิจกรรมบนโลกเสมือนจริง อีกทั้งยังมีสินค้ากว่า 3,000 รายการถูกจัดจำหน่ายในช่วง 4 วันของการจัดงาน แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างชุมชนออนไลน์ที่ไร้ข้อจำกัด และการขยายฐานผู้ชมหน้าใหม่ที่อาจกลายเป็นลูกค้าในอนาคตจากการนำเทคโนโลยีเสมือนจริงมาผนวกกับการจัดงานจนกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ที่สร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ต่อธุรกิจและสังคม

ธุรกิจไมซ์เดินหน้ามอบ “Virtual Experience” ให้นักเดินทางและผู้เข้าร่วมงาน

การสร้างประสบการณ์ที่ดีและน่าจดจำเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับนักเดินทางและผู้เข้าร่วมงานไมซ์ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทุกช่วงรอยต่อของการเดินทาง ตั้งแต่การขนส่ง ที่พัก รวมถึงสถานที่จัดงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ ผู้ประกอบการไมซ์สามารถมอบประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่าง โดยการนำเทคโนโลยีเสมือนจริง เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการให้บริการ เช่น สายการบินแห่งปี “กาตาร์แอร์เวย์ส” มุ่งยกระดับประสบการณ์เดินทาง ที่สมบูรณ์แบบด้วยเทคโนโลยี เข้าสู่โลก Metaverse ด้วยการเปิดตัว QVerse ซึ่งเป็นประสบการณ์เสมือนจริง ในรูปแบบของ VR โดยมีลูกเรือบนเครื่องบิน “MetaHuman” คอยให้บริการโต้ตอบแบบดิจิทัลกับนักเดินทาง
https://m.thepeninsulaqatar.com/get/maximage/20220616_1655377421-989.jpg?1655377421
https://www.arabnews.com/node/1708066/media
สายการบินกาตาร์แอร์เวย์ส เชื่อว่า ประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าเป็นองค์ประกอบสำคัญของความสำเร็จของธุรกิจ จึงนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเพิ่มประสบการณ์การเดินทางอย่างเต็มรูปแบบด้วยการร่วมมือกับ Epic Games ออกแบบพื้นที่สนามบิน และเครื่องบินด้วยเทคโนโลยี Unreal Engine ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้าง 3D แบบเรียลไทม์ ในขณะที่พนักงานบริการ “Sama” สร้างขึ้นโดยใช้ Meta-Human Creator แอปพลิเคชันบนคลาวด์ที่สร้างมนุษย์ดิจิทัลรายละเอียดสูง ทำให้ได้ภาพและบรรยากาศที่สมจริงราวกับอยู่บนเครื่องบิน เพื่อเข้ามาเสริมรูปแบบการบริการที่จะช่วยสร้างความเพลินเพลิดให้กับนักเดินทางได้
https://www.arabnews.com/node/1708066/media
ในขณะที่ธุรกิจโรงแรมและที่พักสำหรับรับรองนักเดินทางไมซ์ในประเทศไทยเองอย่าง Pullman Bangkok Hotel G ก็มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง VR นำเสนอพื้นที่ภายในโรงแรมให้กับนักเดินทาง ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อเปิดโอกาสให้นักเดินทางสามารถสำรวจสถานที่จริงก่อนตัดสินใจเข้าใช้บริการโดยพื้นที่ของโรงแรมในโลกเสมือนจริงจะถูกแบ่งออกเป็นห้องต่าง ๆ เช่น ห้องบอลรูม 38, ห้องสมุด, Gallery36, The Retreat, Scarlett กรุงเทพฯ, 25 Degrees กรุงเทพฯ ผ่านการออกแบบโดยใช้เทคโนโลยี 3D ที่สามารถเชื่อมต่อกับแว่นตา Samsung VR Gear เพื่อให้ผู้เข้าพักสามารถสำรวจพื้นที่ของโรงแรมได้อย่างสมจริง
https://www.pullmanbangkokhotelg.com/official-site/virtual-reality/

เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกงอย่างกลุ่มโรงแรมเรกัล (Regal Hotels Group) ได้ประกาศเข้าสู่โลกเสมือนจริงด้วยโครงการ MetaGreen เป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน และสร้างสรรค์กิจกรรมทางเลือกใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการจัดกิจกรรมบนโลกเสมือนจริง โดยได้เนรมิตพื้นที่โรงแรมสีเขียว ห้างสรรพสินค้า สวนศิลปะ และพื้นที่สำหรับการแสดง เป็นต้น ให้นักเดินทางได้ร่วมสนุกและเพลิดเพลินกับการท่องโลกเสมือนจริง

https://media-cdn.tripadvisor.com/media/photo-s/1b/d0/ea/ce/hotel-exterior-night.jpg
https://www.cryptonewsz.com/metagreen-on-sandbox-regal-hotels-newly-launched-green-initiative-to-raise-sustainability-awareness/
https://www.metagreen.city/

กิจกรรมสำคัญที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจไมซ์อย่างการจัดประชุมก็มีการปรับรูปแบบและนำเทคโนโลยีเสมือนจริงเข้ามาประยุกต์ใช้ ลดข้อจำกัดด้านสถานที่ การเดินทาง และการเข้าถึงของผู้ร่วมประชุมจำนวนมากจากหลากหลายพื้นที่ เช่น การประชุมสุดยอดเศรษฐกิจครั้งแรกของโลกใน Metaverse “Investopia Investment Summit 2023” ซึ่งจัดขึ้นโดยรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากความตระหนักถึงศักยภาพของเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วโลกที่สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยเทคโนโลยี รวมถึงเล็งเห็นข้อดีของเทคโนโลยีสร้างประสบการณ์เสมือนจริงในการอำนวยความสะดวก และกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น

https://www.youtube.com/watch?v=EbfbPoaMqtc

ภายในบริเวณพื้นที่การประชุมแฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ และมีการแบ่งโซนอย่างชัดเจน เช่น Lobby, Town Hall, Auditorium, Interactive Booths, Exhibition Hall และจุดเด่นที่สร้างความแตกต่างในงานนี้ คือ บริเวณพื้นที่ของ Networking Tools ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถติดต่อสื่อสารกันผ่านระบบแชท และมีการสนทนาผ่านวิดีโอคอลกันได้ทันทีเมื่อผู้ร่วมสนทนาอีกฝ่ายตอบรับ ทำให้เกิดความสะดวกและง่ายต่อการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้เข้าประชุมทั่วโลก

https://www.youtube.com/watch?v=EbfbPoaMqtc 

นอกจากนี้ เทคโนโลยีสร้างประสบการณ์เสมือนจริงยังช่วยยกระดับความเป็นมืออาชีพให้กับการจัดงาน และทำให้ผู้เข้าร่วมงานมีส่วนร่วมกับกิจกรรมภายในงานมากขึ้นในลักษณะ Interactive Event ซึ่งมักนำมาใช้กับงานสำคัญระดับโลกเพื่อเป็นเครื่องมือดึงดูดความสนใจจากผู้เข้าร่วมงาน โดยเฉพาะงานนิทรรศการ และงานอีเวนต์ที่ต้องการเพิ่มสีสันและความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับงานมากยิ่งขึ้น เช่น งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 – 31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยประเทศไทยได้เลือกธีม “การขับเคลื่อนสู่อนาคต” (Mobility for the Future) มานำเสนอและออกแบบอาคารจัดแสดงของประเทศไทยภายใต้ชื่อ “ไทยแลนด์พาวิลเลี่ยน” และนำเทคโนโลยี Augmented Reality (AR), Virtual Reality (VR), จอ LED, ระบบ Touch Screen มาผสมผสานกับการจัดแสดง ชูเรื่องราวความเป็น Nation Branding ให้คนทั่วโลกรับรู้

https://www.visitdubai.com/en/articles/ultimate-guide-to-expo-2020-dubai
https://www.bangkokpost.com/business/2135583/des-invites-firms-to-join-world-expo


ผลการจัดแสดงของ “ไทยแลนด์พาวิลเลี่ยน” ในช่วงระยะเวลา 6 เดือน สามารถดึงดูดผู้เข้าชมได้อย่างล้นหลาม มีผู้เข้าชมมากกว่า 2.35 ล้านคน โดยผลการสำรวจความพึงพอใจพบว่า กว่า 82% ของผู้เข้าชมชื่นชอบอาคารแสดงของประเทศไทยมากกว่าอาคารอื่น ๆ และกว่า 95% ต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยหลังจากการเข้าชมงาน แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของผู้จัดงานในการนำเทคโนโลยีเสมือนจริงมาสร้างสรรค์และนำเสนอผลงานแก่คนทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนสามารถเพิ่มโอกาสในการดึงนักเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยจากการส่งมอบประสบการณ์บนโลกเสมือนที่สมจริง

www.youtube.com/watch?v=y4J908O3-OA
https://readthecloud.co


ส่องเทรนด์การจัดงาน Virtual MICE ทั่วโลก

ในปี 2566 ผู้จัดงานในหลายประเทศทั่วโลกมีกำหนดจัดงานที่รวบรวมเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้อัปเดตเทคโนโลยีใหม่ ๆ ถือเป็นโอกาสดีในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างผู้เชี่ยวชาญกับผู้ที่มีความสนใจในเรื่องเทคโนโลยี เพื่อสร้างนวัตกรรมและพัฒนาเทคโนโลยีไปสู่ทิศทางที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีสร้างเสริมประสบการณ์เสมือนจริงไม่ว่าจะเป็น AR (Augmented Reality), VR (Virtual Reality), MR (Mixed Reality) รวมถึง Metaverse ได้กลายมาเป็นจุดเด่นที่ถูกนำมาใช้ในการจัดงานมากที่สุด

https://www.aweasia.com/

เช่น งาน Augmented World Expo (ASIA) 2023 ที่รวบรวมนักพัฒนา ผู้ก่อตั้ง สื่อ และนักวิเคราะห์ที่สนใจใน AR, VR เทคโนโลยี Web3 และ Metaverse เพื่อส่งต่อความรู้แบบสหวิทยาการในอุตสาหกรรมให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับข้อมูลทันสมัยเกี่ยวกับแนวโน้ม และการพัฒนาของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจากการคาดการณ์การเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเสมือนจริง ซึ่งคาดการณ์ว่าอาจเติบโตถึง 40% ต่อปีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

www.gitex.com

หรืองานเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด และครอบคลุมทุกด้านของเทคโนโลยีอย่างงาน GITEX Global 2023 ซึ่งจัดขึ้นที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่จะรวมเอาระบบนิเวศทางเทคโนโลยีโดยเฉพาะ Metaverse Economy ที่ล้ำหน้าที่สุดในโลกเข้าด้วยกัน เพื่อชี้ให้เห็นโอกาสและเสริมศักยภาพทุกอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ และชวนผู้เข้าร่วมงานไปสัมผัสประสบการณ์ Metaverse เพื่อก้าวเข้าสู่พื้นที่หลายมิติที่สมจริงผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ภายในงาน

https://augmentedenterprisesummit.com/

รวมไปถึงงาน Augmented Enterprise Summit 2023 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 -26 ตุลาคม 2566 ณ รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นงานใหญ่ระดับโลกที่ได้รับความสนใจ และจัดต่อเนื่องมาหลายครั้ง โดยในปีนี้ได้มุ่งเน้นไปที่การนำเสนอโซลูชันเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีโลกเสมือนที่สมจริงทั้ง AR, VR, MR, XR และ Metaverse เช่น การปรับกลยุทธ์ในการนำเสนอ XR ในองค์กร, การออกแบบและการแสดงภาพที่สมจริง, การสร้างประสบการณ์ที่ลูกค้าต้องการด้วย AR และ VR รวมถึงการนำเทคโนโลยีเสมือนจริงมาปรับปรุงรูปแบบการให้บริการ การจัดงานและการประชุมผ่านโลก Metaverse ทั้งนี้เพื่อให้ภาคธุรกิจและผู้เข้าร่วมงานได้รับความรู้ และแรงบันดาลใจในการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับธุรกิจของตน



"Virtual Experience Economy" ไม่เพียงแค่มีบทบาทสำคัญในการพลิกโฉมการจัดงานรูปแบบเดิม ซึ่งสามารถสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการเพิ่มมูลค่าของธุรกิจและการจัดงานไมซ์ (Value Added Event) ให้การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง (Decent Work and Economic Growth) แต่ยังมีส่วนสำคัญในการสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนทางสังคมในหลายมิติ เมื่อรูปแบบกิจกรรมไมซ์เปลี่ยนไปโดยระบบการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีเสมือนจริงที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ (Reduce Inequality) ในการเข้าถึงและเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมงานได้อิสระ
 
ขณะเดียวกันผู้จัดงานไมซ์ทั่วโลกได้นำแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาปรับใช้ เพื่อช่วยลดต้นทุนในการจัดงานได้อีกทางหนึ่ง ข้อจำกัดด้านสถานที่ในการรองรับผู้เข้าร่วมงาน อาหารสำหรับจัดเลี้ยง การจัดการ และลดปริมาณขยะ รวมถึงปัญหาการเดินทางเพื่อเข้าร่วมงานของนักเดินทางจะหมดไป เมื่อเทคโนโลยี สร้างประสบการณ์เสมือนที่สมจริงได้ทลายข้อจำกัดเหล่านี้ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดการปล่อยมลพิษ ลดการใช้ทรัพยากร ลดขยะหรือของเสียต่าง ๆ รวมถึงลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการจัดงานซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Action)  สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ช่วยสร้างรากฐานความยั่งยืน (Sustainability) ให้แก่โลก อีกทั้งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้าน ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมให้กับงานไมซ์อีกด้วย

MICE Outlook ฉบับหน้า เตรียมพบกับการนำเทรนด์ Slow Route เข้ามาสอดแทรกกับการนำเสนอกิจกรรมไมซ์ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของนักเดินทางที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อย่าลืมติดตามไปพร้อม ๆ กัน

แหล่งอ้างอิง

ผลสำรวจ State of Virtual Events 2022 Key Findings: https://corp.kaltura.com/blog/state-of-virtual-events-2022-report/
กรณีศึกษา Van gogh The immersive experience : https://vangoghexpo.com/ และ https://workpointtoday.com/van-gogh-alive-bangkok-2/ และ https://www.vangoghmuseum.nl/en/about/organisation/annual-report
ผลสำรวจ Mckinsey, Value creation in the metaverse: The real business of the virtual world: https://www.mckinsey.com/~/media/mckinsey/business%20functions/marketing%20and%20sales/our%20insights/value%20creation%20in%20the%20metaverse/Value-creation-in-the-metaverse.pdf
กรณีศึกษา Decentraland: https://decentraland.org/blog/announcements/looking-back-at-decentraland-metaverse-music-festival-2022
กรณีศึกษา Qatar Airline: https://www.traveldailymedia.com/worlds-first-metahuman-cabin-crew-is-here-qatar-airways-steps-into-metaverse-with-qverse-virtual-reality/ และ https://www.qatarairways.com/press-releases/en-WW/215125-qatar-airways-steps-into-the-metaverse-with-qverse-virtual-reality-and-world-s-first-metahuman-cabin-crew
กรณีศึกษา Investopia 2022 UAE: https://www.moec.gov.ae/en/-/uae-discusses-impact-of-modern-technology-on-intellectual-property-rights-at-wipo-conversation และ https://www.youtube.com/watch?v=EbfbPoaMqtc
กรณีศึกษา โรงแรม Pullman Bangkok Hotel G: https://www.pullmanbangkokhotelg.com/official-site/virtual-reality/
กรณีศึกษา โรงแรม Regal Hotels Group: https://www.prnewswire.com/news-releases/regal-hotels-group-enters-the-metaverse-with-metagreen-the-first-green-metropolis-in-the-sandbox-301531681.html
กรณีศึกษา บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน): https://www.brandbuffet.in.th/2022/04/success-of-thailand-pavilion-at-world-expo-2020-dubai/
งาน aweasia: https://www.aweasia.com/?gclid=Cj0KCQjwnrmlBhDHARIsADJ5b_m4V_H9AG84SThTsuQzr4bq4U4YaiV6txD2ozmh-f87LQ8J_xmIQ74aAi2-EALw_wcB และ https://finance.yahoo.com/news/awe-asia-host-2023-conference-135300380.html
งาน GITEX GLOBAL: https://www.gitex.com/
งาน Augmented Enterprise Summit 2023: https://augmentedenterprisesummit.com/ และ https://augmentedenterprisesummit.com/agenda/
Rating :