Go Mega, Choose the Right Data มุ่งสู่งานมหกรรมระดับโลกด้วยข้อมูล

ปัจจุบัน ข้อมูลเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป และยิ่งเพิ่มมากขึ้นในโลกดิจิทัล เมื่อมี Digital Disruption เข้ามา โลกดิจิทัลได้กลายเป็นพื้นที่หลักที่ประกอบไปด้วยข้อมูลข่าวสาร ทำให้ภาคธุรกิจเกิดการปรับตัวเพื่อสอดรับกับการเปลี่ยนแปลง นำมาซึ่งกลยุทธ์ใหม่ ๆ ในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตขึ้น แน่นอนว่า การใช้ประโยชน์จากข้อมูลกลายมาเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่เรียกว่า Data-Driven Marketing ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เกิดจากการรวบรวมข้อมูลในด้านต่าง ๆ ที่ภาคธุรกิจเล็งเห็นว่าสำคัญ และมีการนำข้อมูลนั้นมาใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์และพัฒนาธุรกิจ ซึ่งธุรกิจการจัดงาน Mega Events เป็นหนึ่งในภาคธุรกิจที่มีการนำกลยุทธ์นี้มาปรับใช้

qz.com

Smukfest ผนวก IBM กับการเก็บ Data เพื่องานเทศกาลดนตรี

Skanderborg Music Festival หรือ Smukfest งานเทศกาลดนตรีสัญชาติเดนมาร์กที่มีศิลปินระดับโลกวนเวียนมาไม่ขาดสาย ทั้ง Britney Spears, Shawn Mendes รวมไปถึงศิลปิน EDM อย่าง Deadmau5 ก็เคยมาร่วมสร้างสีสันในงานเทศกาลนี้ โดยเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา ทีมอาสาสมัครของบริษัท IBM บริษัทผู้ดูแลเทคโนโลยีและสารสนเทศ ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการไปดูแลในส่วนของการนำข้อมูลของผู้เข้าร่วมงานมาใช้ในการวิเคราะห์และประมวลผล เพื่อให้ได้รูปแบบงานที่สะดวกต่อผู้เข้าร่วมงาน และสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้เข้าร่วมงานได้ ซึ่งมีการวิเคราะห์ข้อมูล 4 ด้าน ได้แก่ ข้อมูลการซื้อของอุปโภค-บริโภคภายในงานเพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายและช่วยลดเวลาการต่อคิว ข้อมูลที่อยู่ของผู้เข้าร่วมงานเพื่อวิเคราะห์ให้ผู้เข้าร่วมงานหลีกเลี่ยงเวทีที่มีคนจำนวนมาก (Overcrowding) ข้อมูลรูปแบบการเดินทางของผู้เข้าร่วมงานเพื่อให้สามารถจัดสรรพื้นที่ในการรองรับยานพาหนะของผู้เข้าร่วมงาน และการนำข้อมูลทั้งหมดมาใช้ในการพัฒนา Chatbot เพื่อให้สามารถคลายข้อสงสัยให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน

www.ibm.com

www.scoopnest.com

IOC จับมือกับ Intel เพื่อสร้างโอลิมปิกด้วยข้อมูล 

Tokyo 2020 มหกรรมกีฬาโอลิมปิกประจำปี 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งงานที่นำนวัตกรรม ด้าน Data-Driven มาใช้ในการพัฒนางานให้ตอบโจทย์กับผู้เข้าร่วมงาน โดยในครั้งนี้ Intel ได้ร่วมมือกับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (International Olympic Committee: IOC) พร้อมช่วยดูแลเทคโนโลยีและข้อมูลในทุกมิติของการจัดโอลิมปิก ไม่ว่าจะเป็นการจัดการฐานข้อมูลต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต หรือ Internet of Things: IoT การดูแลข้อมูลการจัดงานอย่างครบวงจร ซึ่งประกอบไปด้วยฐานข้อมูลเกี่ยวกับการแข่งกีฬาชนิดต่าง ๆ โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาวิเคราะห์ในการจัดงาน เช่น ข้อมูลจำนวนการซื้อบัตรเข้าชม จะถูกนำมาคำนวณเพื่อวิเคราะห์การจัดสถานที่ และกำหนดจำนวนผู้ดูแลที่เหมาะสม รวมถึงนำไปพัฒนาเพื่อคิดกลยุทธ์ของงานให้มียอดจำหน่ายบัตรเข้าชมเพิ่มมากขึ้น หรือข้อมูลจำนวนการใช้สถานที่จอดรถ เพื่อใช้ในการสำรองพื้นที่ให้เพียงพอต่อจำนวนผู้เข้าร่วมงาน เป็นต้น โดยข้อมูลเหล่านี้จะทำให้เกิดการปรับปรุงพัฒนางาน เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับผู้เข้าร่วมงานในครั้งต่อไปได้

olympics.com

การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ F1 ด้วย Data-Driven Approach 

ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา F1 หรือ Formula 1 งานแข่งรถระดับโลก เคยสร้างความไม่พอใจให้กับเหล่าแฟนคลับโดยเพิกเฉยฐานเสียงและความคิดเห็นของแฟนคลับที่มีต่องาน และเคยปฏิเสธที่จะปรับตัวตามยุคสมัย โดยไม่สนใจความเปลี่ยนแปลงทางการตลาด การเข้ามาของระบบดิจิทัล กลยุทธ์การปรับตัว งานวิจัย รวมถึงความคิดเห็นของเหล่าแฟนคลับ ด้วยเหตุนี้นำมาซึ่งความล้มเหลวของ F1 ในช่วงหนึ่ง ต่อมาในปี 2560 F1 ได้ฟื้นตัวขึ้นภายใต้การดูแลของ Liberty Media ที่เข้ามาดูแลเรื่องสื่อและภาพลักษณ์ ด้วยการนำข้อมูลเกี่ยวกับการแข่งรถของ F1 ที่ถูกเก็บรวบรวมมาตลอดหลายทศวรรษ มาทำเป็นสื่อต่าง ๆ เพื่อเพิ่มการสื่อสารและการมีส่วนร่วมของแฟนคลับ รวมถึงนำข้อมูลเหล่านั้นมาพัฒนานวัตกรรมของรถแข่งให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ F1 ยังร่วมงานกับ AWS ของ Amazon ในด้านนวัตกรรมการเก็บข้อมูล ทั้งนวัตกรรมทางเทคโนโลยี และนวัตกรรมทางวิศวกรรม เช่น Machine Learning และ High Performance Computing เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาในส่วนของประสบการณ์การเข้าชมงานของผู้เข้าร่วมงาน การวิเคราะห์กลยุทธ์ของการแข่งรถ การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของรถแข่งและนักแข่งรถ และการแปลผลการแข่งขันแบบเรียลไทม์จะเห็นได้ว่า มีการนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์อย่างหลากหลาย ทำให้ F1 สร้างปฏิสัมพันธ์กับคนดูได้มากขึ้น รวมถึงสามารถกู้ชื่อเสียงให้กลับมาเป็นงานแข่งรถระดับโลกที่ยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง

thestrategystory.com

aws.amazon.com

Data-Driven Marketing กับความสำเร็จของ Super Bowl 

The Vince Lombardi Trophy.AP

Super Bowl งานแข่งขันอเมริกันฟุตบอลประจำปีอันโด่งดังของประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากจะมีการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลแล้ว ยังมีช่วงการแสดงพักครึ่ง (Super Bowl Halftime Show) ที่เป็นอีกหนึ่งสีสันของงานนี้ ซึ่งจะมีศิลปินชื่อดังแวะเวียนมาแสดงในแต่ละปี และยังมีโฆษณาระหว่างการแข่งขัน (Super Bowl Commercials) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ในการดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคทั่วประเทศ แต่ละแบรนด์ต่างต้องทำการบ้านโดยการเก็บข้อมูลในมิติต่าง ๆ มาอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะในด้านที่เกี่ยวข้องกับผู้เข้าชมงาน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการเข้าใช้เว็บไซต์ต่าง ๆ ในช่วงก่อนการแข่งขัน ระหว่างการแข่งขัน และหลังการแข่งขัน จากนั้นทางแบรนด์จะนำข้อมูลที่ได้ไปปรับใช้ในการโฆษณา เพื่อให้แบรนด์ของตนสามารถดึงดูดความสนใจคนดูได้อย่างอยู่หมัด นอกจากนี้ ภายในงานมีการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ด้านกีฬา โดยเก็บข้อมูลด้วยเซนเซอร์ ตั้งแต่การเตรียมความพร้อมในการแข่งขันของนักกีฬา การเก็บข้อมูลในสนามการเก็บข้อมูลนักกีฬา เป็นต้น ซึ่งในส่วนของข้อมูลเหล่านี้ จะถูกนำไปพัฒนารูปแบบการแข่งขันและนำไปฝึกนักกีฬาเพื่อเตรียมตัวในการแข่งขันครั้งต่อไป

Mike Segar

Mark J. Rebilas

Data-Driven Marketing ไม่ได้เป็นเพียงกลยุทธ์หลักของการทำการตลาดใน Mega Events เท่านั้น หากแต่เข้ามาเป็นกลไกในการขับเคลื่อนมิติอื่น ๆ ของงาน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบงาน การเตรียมความพร้อมต่าง ๆ การแข่งขัน การคาดการณ์ความเป็นไปของงาน รวมถึงการนำข้อมูลของการจัดงานในแต่ละปีเพื่อนำไปใช้ปรับปรุงในปีถัด ๆ ไป และที่ขาดไม่ได้ การจัดงานแต่ละครั้ง ต้องได้รับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์ ผู้เป็นกำลังสำคัญของการจัดงาน เหล่าสปอนเซอร์สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปจัดสรรเพื่อให้การสนับสนุนที่เหมาะสม ทำให้ผู้จัดงานสร้างสรรค์งานที่มีคุณภาพ และสร้างความประทับใจให้แก่ผู้เข้าร่วมงานต่อไปได้

สำหรับ MICE Outlook สัปดาห์หน้า ผู้อ่านจะได้พบกับ คุณหนุ่ย-ณัฐพล ม่วงทำ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “การตลาดวันละตอน” กับการพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับเทรนด์การตลาดแบบ Data-Driven Marketing ติดตามอ่านได้เร็ว ๆ นี้