สรุปโดย AI
ในปี 2025 อุตสาหกรรมไมซ์จะเพิ่มมูลค่าการจัดงานด้วยการผสานวัฒนธรรมไทยกับเทคโนโลยี เพื่อดึงดูดผู้เข้าร่วมทั่วโลก
การผสมผสาน Legacy กับ Next Gen จะสร้างมูลค่าเพิ่มและผลกระทบยั่งยืน
ONE Championship เป็นตัวอย่างการบูรณาการวัฒนธรรมไทยกับกีฬาและนวัตกรรมสู่เวทีโลก
มวยไทยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง: สหรัฐฯ ถึง 1.25 พันล้านดอลลาร์ และไทยมากกว่า 100,000 ล้านบาท
ปี 2025 อุตสาหกรรมไมซ์เน้นเล่าเรื่องผ่านศิลปะการต่อสู้เวิร์กช็อปพร้อมนวัตกรรม เพื่อยกระดับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและนวัตกรรม
ในปี 2024 อุตสาหกรรมไมซ์ได้พัฒนาและปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานอย่างต่อเนื่อง โดยนำนวัตกรรม เทคโนโลยีล้ำสมัยมาประยุกต์ใช้ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เข้าร่วมงานจากหลากหลายประเทศทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2025 อุตสาหกรรมไมซ์ยังคงเป็นพื้นที่แห่งการแข่งขันที่ผู้จัดงานจะต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ในการปรับตัว นำเสนองานที่ตอบโจทย์ผู้เข้าร่วมงาน พร้อมมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำ โดยเฉพาะการเพิ่มมูลค่าให้กับงานไมซ์ ผ่านการผสมผสานเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและประเพณีไทยเข้ากับความทันสมัยและความเป็นสากล เพื่อสร้างความโดดเด่นในเวทีระดับโลก
Key takeaway
ในปี 2025 อุตสาหกรรมไมซ์จะเพิ่มมูลค่าให้การจัดงานด้วยการผสานวัฒนธรรมไทยและเทคโนโลยี สร้างเอกลักษณ์ดึงดูดผู้เข้าร่วมทั่วโลก เช่น การเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ผ่านศิลปะการต่อสู้ หรือเวิร์กช็อปเชิงปฏิบัติการ พร้อมนำนวัตกรรมมาส่งเสริมการเล่าเรื่อง แนวทางนี้ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะแหล่งวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า โดยใช้รากฐานวัฒนธรรมไทยเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยง
_1764175097245.jpg)
จากรากฐาน (Legacy) สู่การผนึกกำลังกับ "นวัตกรรม" (Next Gen) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต
หากย้อนกลับไปในช่วงต้นปี 2024 จนถึงปัจจุบันประเด็น Soft Power ของประเทศไทย ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากและกลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้ภาครัฐและภาคเอกชนนำเอาคุณค่าและศักยภาพของวัฒนธรรมไทย รวมถึงรากฐานทางประเพณีและความเป็นเอกลักษณ์ของชาติ ที่สามารถต่อยอดเป็นทรัพยากรเชิงเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาลมาประยุกต์ใช้ผ่านการจัดงานและกิจกรรมระดับนานาชาติ เช่น งานแสดงสินค้าอาหารไทยที่เผยแพร่เอกลักษณ์ของรสชาติและศิลปะการทำอาหาร งานเทศกาลภาพยนตร์ที่เปิดโอกาสให้ภาพยนตร์ไทยได้แสดงศักยภาพบนเวทีโลก การประชุมและนิทรรศการที่เชื่อมโยงวัฒนธรรมเข้ากับการส่งเสริมการลงทุนด้วยการนำเสนอแฟชั่นไทยผสมผสานระหว่างการออกแบบสมัยใหม่กับลวดลายผ้าไทยดั้งเดิม และการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยเน้นเทศกาลพื้นบ้าน ศิลปะการต่อสู้ไทย หรือประเพณีดั้งเดิมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เป็นต้น
_1764175156069.png)
อย่างไรก็ตาม ทิศทางของอุตสาหกรรมไมซ์ในปี 2025 จะไม่ใช่เพียงการจัดงานเพื่อดึงดูดผู้เข้าร่วมงานผ่านความเป็นเอกลักษณ์ของชาติเท่านั้น แต่ยังต้องมุ่งเน้นการสร้าง “มูลค่าเพิ่ม” (Value Creation) ที่เกิดจากการผสมผสานสององค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ Legacy หรือรากฐานที่มั่นคง ซึ่งเป็นการสืบทอดคุณค่าแห่งวัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทย และ Next Generation ซึ่งหมายถึงการบูรณาการนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและตอบโจทย์ความต้องการของนักเดินทางรุ่นใหม่ (Next Gen Travelers) ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักเดินทางรุ่นมิลเลนเนียล (Millennials) และเจนซี (Gen Z) ที่มีความต้องการในการเชื่อมต่อ การค้นหาประสบการณ์ใหม่ ๆ และการเรียนรู้ที่ต่อเนื่อง กลุ่มผู้ประกอบการยุคใหม่ (Startup Founders & Innovators) ที่มองหาโอกาสทางธุรกิจและการขยายเครือข่ายในอุตสาหกรรม กลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรม (Eco & Cultural Travelers) ที่มองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีความยั่งยืนและเชื่อมโยงกับธรรมชาติ รวมถึงกลุ่มนักเดินทางเพื่อการศึกษาและการพัฒนา (Lifelong Learners) ที่มีความสนใจในการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง
การผสมผสานของทั้งสององค์ประกอบระหว่าง Legacy และ Next Gen จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมไมซ์โดยรวม ตลอดจนสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนผ่านการเชื่อมโยงระหว่างมรดกทางวัฒนธรรมและนวัตกรรมล้ำสมัย ซึ่งตัวอย่างของ One Championship (ONE) เวทีการจัดการแข่งขันกีฬาศิลปะการป้องกันตัวที่ครอบคลุม MMA, Muay Thai, Kickboxing โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาทักษะการต่อสู้ และส่งเสริมวัฒนธรรมการกีฬาในเอเชีย ถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่สามารถสะท้อนแนวคิดการบูรณาการระหว่างความเป็นไทยและนวัตกรรมสมัยใหม่ โดยการผสมผสานการกีฬาและการพัฒนาทักษะทางด้านต่าง ๆ ที่ไม่เพียงแค่ให้ความสนุกสนาน แต่ยังสร้างการเรียนรู้และการเชื่อมโยงวัฒนธรรมผ่านการมีส่วนร่วมในกิจกรรมระดับโลก
_1764175198892.png)
ONE Championship ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 พร้อมวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการนำกีฬาศิลปะการต่อสู้มาผสมผสานกับการแสดงที่ทันสมัยและเทคโนโลยีอันล้ำสมัย เพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นให้กับผู้ชมทั่วโลก ด้วยกลยุทธ์การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและการนำเสนอที่ดึงดูดใจ ONE Championship ไม่เพียงสร้างฐานแฟนคลับในระดับนานาชาติ แต่ยังช่วยยกระดับกีฬาพื้นบ้านอย่างมวยไทยให้กลายเป็นกีฬาสากลที่สามารถเข้าถึงผู้ชมในทุกมุมโลก ทำให้ในปัจจุบัน ONE Championship มีนักกีฬาชั้นนำจากหลากหลายประเทศ รวมถึงนักกีฬาชื่อดังจากประเทศไทยที่สร้างชื่อเสียงในเวทีระดับโลก และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการกีฬา
โดยจากผลสำรวจของบริษัท มิลยู อินไซต์ (ประเทศไทย) จำกัด พบว่า ONE Championship เป็นองค์กรกีฬาต่อสู้ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย ด้วยความสามารถในการสร้างการรับรู้แบรนด์อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดที่มีการแข่งขันสูง นอกจากนี้ Forbes ซึ่งเป็นนิตยสารชั้นนำด้านธุรกิจและการเงินระดับโลก ยังได้จัดอันดับองค์กรกีฬาต่อสู้ที่มีมูลค่าทางธุรกิจสูงสุดในโลกประจำปี 2024 โดย ONE Championship ได้รับการจัดอันดับที่ 4 ด้วยมูลค่ารวมกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการตอกย้ำความสำเร็จและศักยภาพขององค์กรในการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระดับโลก ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและการยกระดับกีฬาศิลปะการต่อสู้ให้เป็นที่รู้จักในเวทีนานาชาติ ONE Championship ยังคงเป็นหนึ่งในผู้นำด้านกีฬาที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับแฟน ๆ และนักกีฬาทั่วโลก
_1764175228588.png)
จึงกล่าวได้ว่า One Championship ไม่ได้เป็นเพียงเวทีต่อสู้ที่มุ่งเน้นการจัดการแข่งขันเพื่อสร้างผลกำไรเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย ผ่านการพัฒนาศิลปะการต่อสู้ให้ก้าวไปสู่การเป็นที่ยอมรับในระดับสากล แนวทางนี้ไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมกีฬาในฐานะกิจกรรมที่สร้างความสนุกสนาน ตื่นเต้นเท่านั้น แต่ยังสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืนสำหรับวงการกีฬาในหลายมิติ เช่น การสนับสนุนนักกีฬาเยาวชน การพัฒนาอาชีพในสายงานกีฬา และการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่ช่วยผลักดันเศรษฐกิจในระดับประเทศและภูมิภาค และสามารถเชื่อมโยงกับการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม แรงผลักดันจากหน่วยงานภาครัฐที่ได้ขับเคลื่อน Soft Power อย่างมวยไทยได้กลายเป็นกลยุทธ์ในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยปัจจุบันมวยไทยได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากผู้คนทั่วโลก ซึ่งได้มีค่ายมวยไทยเปิดสอนมากกว่า 5,000 แห่งภายในประเทศ และขยายตัวไปยังประเทศยุโรปกว่า 4,000 แห่ง ในสหรัฐอเมริกา 1,700 แห่ง และอีกกว่า 50 ประเทศ สำหรับมูลค่าในอุตสาหกรรมมวยไทยในสหรัฐฯ มีมูลค่าสูงถึง 1.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ในประเทศมวยไทยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 100,000 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานของศิลปวัฒนธรรมไทยกับโอกาสทางเศรษฐกิจที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศสู่เวทีโลก พร้อมทั้งเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางของศิลปะการต่อสู้อันทรงคุณค่า
_1764175263131.jpg)
ในปี 2025 อุตสาหกรรมไมซ์จะมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มมูลค่าให้กับการจัดกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผสมผสานวัฒนธรรมประเพณีไทยและนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้าไปในเนื้อหาของงาน จะช่วยสร้างเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ดึงดูดผู้เข้าร่วมจากทั่วโลก เช่น การนำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ผ่านการเล่าเรื่องในบริบทของศิลปะการต่อสู้ หรือแม้กระทั่งการจัดเวิร์กช็อปเชิงปฏิบัติการที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวและผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสประสบการณ์ตรง ผนวกกับการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้ามาเล่าเรื่องราว แนวทางนี้จะช่วยเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะแหล่งกำเนิดวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า การบูรณาการรากฐานวัฒนธรรมไทย นวัตกรรม เทคโนโลยีเข้ากับอุตสาหกรรมไมซ์ผ่านการใช้รากฐานวัฒนธรรมไทยเป็นแกนกลางในการเชื่อมโยงมิติต่าง ๆ
อย่าลืมติดตาม MICE Outlook สัปดาห์หน้าที่จะช่วยให้ชาวไมซ์ได้อัปเดตทุกเรื่องที่สำคัญในอุตสาหกรรมไมซ์
_1764175374157.png)