เทคโนโลยี 5G และเทคโนโลยี Cloud Computing ได้เข้ามามีบทบาทในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากคุณสมบัติ และความสามารถของเทคโนโลยีเหล่านี้ในการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ นำไปสู่การสร้างโอกาสใหม่ ๆ ทำให้เกิดการใช้งานมากขึ้นอย่างแพร่หลายทั่วโลก รวมไปถึงในประเทศไทยด้วย เทคโนโลยี 5G ประกอบไปด้วย 3 คุณสมบัติหลักที่โดดเด่นที่ทำให้การเชื่อมต่อมีประสิทธิภาพมากกว่าการเชื่อมต่อในรูปแบบได้อื่น ๆ ได้แก่ 1) ความเชื่อมต่อความหน่วงต่ำและความน่าเชื่อถือสูง (Ultra – reliable and Low Latency Communications – URLLC) 2) การเพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูล (Enhanced Mobile Broadband - eMBB) และ 3) การรองรับการเชื่อมต่อของอุปกรณ์จำนวนมาก (Massive Machine Type Communications – mMTC) ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ ทำให้ทั่วโลกมีการใช้งานเทคโนโลยีนี้อย่างแพร่หลาย โดยในปี 2565 มูลค่าตลาดเทคโนโลยี 5G ทั่วโลกมีมูลค่าอยู่ที่ 107.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ และจะขยายตัวขึ้นสูงถึง 330.5 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2570 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) อยู่ที่ร้อยละ 25.3 ต่อปี ซึ่งการเติบโตดังกล่าวมีปัจจัยสนับสนุนหลัก 3 ประการ ประกอบไปด้วย
การใช้งาน 5G เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานอุปกรณ์ IoT (Internet of Things) ที่สูงขึ้นในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ: ไม่ว่าจะเป็นการใช้ในภาคการผลิตเพื่อพัฒนาโรงงานสู่การเป็นโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) ซึ่งมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 14.9 ทั่วโลก (CAGR ปี 2566 – 2573) การใช้ในภาคการเกษตรทั่วโลกเพื่อพัฒนาสู่การเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 13.4 (CAGR ปี 2566 – 2573) และการประยุกต์ใช้ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) ในอุตสาหกรรมด้านพลังงาน โดยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตทั่วโลกเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 17.4 ต่อปี (CAGR ปี 2566 – 2571) เป็นต้น
การใช้งาน 5G ที่มากขึ้นจากภาคธุรกิจ (B2B): ภาคธุรกิจมีการใช้งานเทคโนโลยีสำหรับการสร้างประสบการณ์ลูกค้า และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก (Retail) ที่ประยุกต์ใช้งาน AR/VR ในการสร้างประสบการณ์ให้แก่ผู้บริโภคได้ทดลองสวมใส่สินค้าแบบเสมือนจริง หรือกลุ่มการขายยานยนต์ (Automotive) เช่น Toyoya, BMW และ Ford ที่ใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ในการจัดทำโชว์รูมเสมือนจริง (Virtual Showroom) เพื่อใช้ผู้ซื้อสามารถเลือกดูสินค้าได้อย่าวละเอียด เป็นต้น ซึ่งเทคโนโลยี 5G จะทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการบริการเหล่านี้ให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนสามารถเก็บข้อมูลผู้บริโภคได้แบบ Real-Time
การติดตั้ง 5G Fixed Wireless Access (FWA) ที่เพิ่มขึ้น: 5G Fixed Wireless Access (5G FWA) คือ การส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ต 5G ไปยังตัวรับสัญญาณ เพื่อให้ตัวรับสัญญาณทำการจ่ายสัญญาณต่อไปยังระบบเครือข่ายภายในอาคาร โดยไม่ต้องเดินสายสัญญาณ ทำให้สามารถติดตั้งได้อย่างสะดวก และไม่มีข้อจำกัดในการเดินสายสัญญาณ ด้วยเหตุนี้ การติดตั้ง FWA จึงเป็นที่นิยมขององค์กรขนาดใหญ่มากขึ้น ตลอดจน เป็นที่นิยมในภาคอุตสาหกรรมการผลิตเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของสายการผลิต (Production line) และการติดตั้งสัญญาณเพิ่มเติมในส่วนภายนอกโรงงานที่เข้าถึงยาก เช่น บ่อบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น
ทั้งนี้ เมื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเทคโนโลยี 5G ในการเพิ่มศักยภาพของเศรษฐกิจ พบว่า ภายในปี 2578 รายได้ทั่วโลกที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการใช้งาน 5G จะสูงถึง 13.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยภาคการผลิตจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการใช้งาน 5G มากที่สุด ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 4,771 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 97 เกิดจากความสามารถของเทคโนโลยี 5G ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่การทำงานของหุ่นยนต์ในภาคการผลิต และร้อยละ 3 เกิดจากความสามารถของ 5G ในการลดข้อผิดพลาดระหว่างการผลิต ทั้งนี้ อุตสาหกรรมข้อมูลและสารสนเทศ จะสามารถสร้างรายได้จากการใช้งานรองลงมาอยู่ที่ 1,493 พันล้านเหรียญสหรัฐ รองมาเป็น อุตสาหกรรมค้าปลีกและค้าส่งอยู่ที่ 1,140 พันล้านเหรียญสหรัฐ และการบริการภาครัฐอยู่ที่ 961 พันล้านเหรียญสหรัฐ
สมัครสมาชิกเพื่ออ่านต่อ
พร้อมเข้าถึงทุกรายงานพิเศษและบทความที่คัดสรรมาโดยเฉพาะ
